2025 Yamaha NMAX Turbo มีอะไรที่ “เพิ่ม” จากตัวเก่า
2025 Yamaha NMAX Turbo เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซีย โดยการเปิดตัวของโมเดลน้องเล็กในตระกูล Max-Series นี้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายจุดที่แทบจะเรียกว่าเป็น All New เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างนั้นมาเริ่มดูไปพร้อม ๆ กัน
ดีไซน์รอบคันปรับเปลี่ยนแค่นิดหน่อย
NMAX Turbo 2025 | Yamaha NMAX 2024 |
เริ่มต้นกันด้วยดีไซน์รอบคันของน้องเล็กสุดในตระกูล Max-Series โดยดีไซน์ที่ว่านี้คือดีไซน์ของ ‘ตัวถัง’ รอบคันที่มีขนาดของตัวรถ และมิติรถที่เรียกว่าเท่าเดิมเลยก็แทบจะว่าได้ แต่ยังคงเอกลักษณ์ และสไตล์ของความเป็น NMAX ด้วยเส้นสายรอบคันที่ทำให้รถคันนี้ดูมีความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ไฟหน้า และไฟท้ายดีไซน์ใหม่
การออกแบบดีไซน์ในส่วนไฟหน้าของ NMAX ในโมเดลใหม่นี้ เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะทางค่ายได้ทำการทุบหน้าเก่า แล้วจัดการดีไซน์ใหม่ให้ออกมาอย่างหล่ออย่างไร้ที่ติ เฉียบคม ดุดัน เพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถมากขึ้น
ไม่เพียงแค่ไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่ แต่ในส่วนของไฟท้ายก็มีการออกแบบดีไซน์ใหม่เช่นเดียวกัน ที่เหมือนจะเป็นการแยกไฟเลี้ยว และไฟท้ายออกจากกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งในโมเดลที่วางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นไฟท้ายแบบก้อนเดียว
โช้คอัพหลังมาพร้อมซับแทงค์
เรื่องนี่น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยสำหรับสาวก แม้ว่าระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะให้ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นเทเลสโคปิกไว้อย่างเหนียวแน่น และด้านหลังก็ยังคงเป็นสปริงคู่ที่ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม แต่เหมือนว่าจะมีแสงสะท้อนจากพระอาทิตย์สะท้อนระยิบระยับเหมือนมีกระปุกอะไรบางอย่างติดมาด้วย ใช่แล้วครับเพราะในที่สุดทางค่ายก็ให้ความเมตตาแล้วทำการมอบซับแทงค์จากโรงงานมาให้เป็นที่เรียบร้อย
ระบบส่งกำลังอัพเกรดใหม่
ในส่วนของเครื่องยนต์ยังเป็นเครื่องยนต์เดิมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Blue Core สูบเดียวระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดเครื่องยนต์ 155 ซีซี พละกำลัง 15.15 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดอยู่ที่ 14.2 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที
แม้จะมีคำว่า ‘TURBO’ ต่อท้าย แต่เทอร์โบที่ว่านี้ไม่ได้เป็นระบบเทอร์โบชาร์จแบบรถยนต์ เพราะสิ่งที่น่าสนใจคือโมเดลใหม่นี้มาพร้อมเทคโนโลยีเกียร์ที่มีชื่อว่า YECVT หรือ Yamaha Electric CVT ที่เข้ามาแทนที่เกียร์ CVT เดิม พร้อมมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่เร็ว แรง เสมือนรถติดเทอร์โบ
และที่สำคัญยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้ง่ายสองโหมด ได้แก่ T-Mode สำหรับการขับขี่ในเมือง และ S-Mode หรือโหมดสปอร์ตที่จะสามารถรีดประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้มีความเร้าใจมากยิ่งขึ้น (รอบมาไวขึ้นนั่นแหละ)
หน้าจอกลางดีไซน์ใหม่
เพื่อให้ได้อารมณ์ของความเป็น ‘ออลนิว’ ที่แท้จริงทางค่ายได้ทำการกระชากจอเดิมออก แล้วจัดการใส่จอใหม่ที่มีดีไซน์สวยงามมากยิ่งขึ้น หลายท่านอาจคุ้นตากับจอนี้ เพราะจอนี้เป็นจอที่ปรับดีไซน์มาจากพี่ชายกลางของบ้าน Max-Series อย่าง ‘X-MAX’ รองรับระบบนำทาง Garmin Street Cross เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง
และในเรื่องของการวางจำหน่ายในประเทศไทยนั้นก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม ว่าทางไทย ยามาฮ่ามอเตอร์ จะนำโมเดลนี้มาทำตลาดหรือไม่ กดติดตาม SuperBike Thailand ไว้เลย หากมีข่าวสารเพิ่มเติมอย่างไร จะมาอัพเดทให้อย่างแน่นอน
อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก