2025 Honda CBR250RR เปิดสีใหม่ วางจำหน่ายเฉพาะญี่ปุ่น

2025 Honda CBR250RR สปอร์ตเรซซิ่งโฉมใหม่ล่าสุดจากค่ายฮอนด้า ที่ยังคงการออกแบบดีไซน์โฉมเดียวกับปี 2024 แต่จะแตกต่างกันตรงที่โฉมใหม่ปี 2025 นี้มาพร้อมกับกราฟิกสีสันใหม่ และขุมพลังเครื่องยนต์ที่พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่อันแสนเร้าใจในทุกการเดินทาง
การออกแบบดีไซน์

ดีไซน์ของโฉมโมเดล 2025 นี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถที่ขยับไปด้านหน้า ตำแหน่งของไฟส่องสว่างยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเฉียบคม และมีความล้ำสมัย พื้นผิวตัวถังถูกออกแบบมาโดยเน้นพื้นผิวที่มีความเรียบ และในด้านของฟังก์ชันเทคโนโลยีด้านอากาศพลศาสตร์ เช่น แฟริ่งกลางที่มีครีบตรงช่องระบายอากาศ และแฟริ่งเบาะที่มีช่องดักอากาศ ช่วยลดแรงต้านลมขณะขับขี่ และมอบการป้องกันลมในดักอากาศ ช่วยลดแรงต้านลมขณะขับขี่

โดยไฮไลท์เด่นของโฉมปี 2025 นี้คือสี Honda Glare White หรือสีขาวมุก ซึ่งเป็นโทนสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก CBR250RR ที่เปิดตัวในปี 1994 สะท้อนถึงความเร้าใจ พร้อมกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ต
สเปค และรายละเอียดต่าง ๆ
เครื่องยนต์ | เครื่องยนต์สองสูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 249 ซีซี |
ระบบวาล์ว | DOHC 4 วาล์วต่อสูบ |
แรงม้า (เคลม) | 41 แรงม้าที่ 13,500 รอบต่อนาที |
แรงบิด (เคลม) | 25 นิวตันเมตรที่ 10,750 รอบต่อนาที |
ขนาดกระบอกสูบ / ช่วงชัก | 62 x 41.3 มม. |
อัตราส่วนการอัด | 12.5 |
ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
ระบบจุดระเบิด | TCI |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีดไฟฟ้า PGM-FI |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
ระบบคลัตซ์ | คลัตซ์แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน |
ระบบส่งกำลังสุดท้าย | โซ่ |
ระบบกันสะเทือนด้านหน้า | โช้คอัพแบบเทเลสโคปิก |
ระบบกันสะเทือนด้านหลัง | โช้คอัพเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม |
ยางหน้า | 110/70-R17 M/C |
ยางหลัง | 140/70-R17 M/C |
ระบบเบรกหน้า | ดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์เบรกจาก Nissin |
ระบบเบรกหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์เบรกจาก Nissin |
กว้าง x ยาว x สูง | 725 x 2,065 x 1,110 มม. |
ระยะฐานล้อ | 1,390 มม. |
ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ | 148 มม. |
ความสูงเบาะ | 790 มม. |
น้ำหนักรถ | 168 กิโลกรัม |
ความจุถังน้ำมัน | N/A |
ประเภทของน้ำมันที่เติมได้ | N/A |
เทคโนโลยี |
|
สีสันที่วางจำหน่าย
![]() |
Honda GrandPrix Red |
![]() |
Honda Glare White |
![]() |
Honda Matte Bullet Silver |
และในส่วนของราคาวางจำหน่ายจะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับสีสัน สี Matte Bullet Silver วางจำหน่ายที่ราคา 902,000 เยน หรือตีมูลค่าเป็นเงินไทยประมาณ 205,800 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และในรุ่นสี Glare White และ GrandPrix Red วางจำหน่ายที่ราคา 940,500 เยน หรือตีมูลค่าเป็นเงินไทยประมาณ 214,600 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
หากตั้งข้อสงสัยว่าจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่นั้น มีความเป็นไปได้สูงที่แฟน ๆ ชาวไทยอาจจะได้แค่มอง เพราะไม่มาแน่นอน
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก