2025 Fantic Caballero Travel Edition สแคมเบอร์อิตาลี เครื่องยามาฮ่า

2025 Fantic Caballero หนึ่งในโมเดลจากค่าย Fantic Motor รถจักรยานยนต์สัญชาติอิตาลี โดยรถในรุ่นย่อย Caballero จัดเป็นรถจักรยานยนต์ในกลุ่ม Scrambler ซึ่งมีวางจำหน่ายทั้งในรุ่นเล็กสุด 125 ซีซี ขยับขึ้นมาเป็น 500 ซีซี และรุ่นใหญ่สุดของโมเดลกับเครื่องยนต์ 700 ซีซี โดยในปี 2025 นี้ก็มาพร้อมรุ่นย่อย Travel Edition ที่ออกแบบมาเพื่อการเดินทาง และการผจญภัยโดยเฉพาะ
เครื่องยนต์ และช่วงล่างคงเอกลักษณ์เดิม

เครื่องยนต์ของ Caballero Travel Edition คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์จาก Yamaha CP2 แบบสองสูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดเครื่องยนต์ 698 ซีซีให้พละกำลังสูงสุดที่ 74 แรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิด 60 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยโซ่ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด และความจุถังน้ำมันที่ 14 ลิตร
ระบบช่วงล่างคงเอกลักษณ์ และถอดแบบมาจากเวอร์ชันธรรมดาที่วางขายอยู่ก่อนหน้า ระบบกันสะเทือนด้านหน้ามาพร้อมกับโช้คอัพแบบหัวกลับ จากแบรนด์ Marzocchi ขนาดแกน 45 มิลลิเมตร พร้อมระยะยุบ 150 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยว ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มจากแบรนด์ Marzocchi เช่นเดียวกัน สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ มีระยะยุบตัวอยู่ที่ 150 มิลลิเมตรแบบเดียวกันกับด้านหน้า

ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ด้านหน้ามาพร้อมกับคาลิเปอร์เบรกจากค่าย Brembo แบบสี่ลูกสูบขนาด 330 มิลลิเมตรติดตั้งอยู่คู่กับล้อขนาด 110/80-R19 มาพร้อมกับระบบเบรก ABS และด้านหลังก็เป็นคาลิเปอร์เบรกจาก Brembo แบบลูกสูบเดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร ติดตั้งอยู่คู่กับล้อขนาด 150/70-R17
ดีไซน์การตกแต่งพร้อมเดินทาง

เพิ่มความเป็น Scrambler สำหรับท่องเที่ยงแบบเต็มรูปแบบ โดยดีไซน์ของตัวรถยังคงเอกลักษณ์แบบเดิมที่เป็นตัว 700 ซีซี แต่จะมีลูกเล่นความแตกต่างคือจะมาพร้อมกับดีไซน์การตกแต่งที่พร้อมให้ผู้ขับขี่นำออกไปเดินทางท่องเที่ยว เริ่มที่ด้านหน้าของตัวรถมาพร้อมชิลด์เล็ก ๆ ที่อยู่บริเวณเหนือไฟหน้า

บริเวณตัวถังมีกระเป๋าใบน้อยติดตั้งอยู่ ด้านท้ายของตัวรถมีเหล็กท้ายรถที่รองรับการติดแร็คท้ายเพิ่มเติมของผู้ขับขี่ ขนาบข้างด้วยกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระที่มีการออกแบบร่วมกับแบรนด์ Givi มีขนาดความจุอยู่ที่ 17 ลิตรต่อใบ รวมสองข้างมีความจุทั้งหมด 34 ลิตร

ในด้านของการจัดจำหน่ายตอนนี้จะวางขายที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โดยมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 1.8 ล้านเยน หรือตีมูลค่าเป็นเงินไทยประมาณ 405,140 บาท (ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ) สำหรับแฟน ๆ ชาวไทยที่สนใจก็อาจจะทำได้แค่ส่องสเปคไปก่อน เพราะยังไม่มีข่าวของการเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก