2025 BMW R12 S หวนคืนอดีต พร้อมสไตล์โมเดิร์น เรโทร
2025 BMW R12 S โมลเดลล่าสุดที่ทาง BMW Motorrad ขยายไลน์ Heritage ซึ่งผลิตมาเพื่อเป็นการยกย่อง R90 S รุ่นตำนาน ในปี 1973 ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะ พละกำลัง 67 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสปอร์ตของ BMW Motorrad อย่างแท้จริง
ประวัติความสำเร็จของ BMW R90 S
ก่อนจะมาเป็น R12 S ก็มีในรุ่นโมเดลของ R90 S ที่ได้สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์อันโดดเด่นจากความสำเร็จในสนามแข่งอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ในปี 1976 Hans-Otto Butenuth และ Helmut Dahne สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันรายการ Production TT
และในปีเดียวกัน Steve McLaughlin ยังคว้าชัยชนะในรายการ 200 Miles of Daytona อันทรงเกียรติ และเพื่อนร่วมทีมของเขา Reg Pridmore ได้กลายเป็นแชมป์ AMA Superbike คนแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยเหตุนี้ R 90 S ยังคงเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์ BMW ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการอย่างมาก ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เครื่องยนต์เดียวกับ R Nine T
พื้นฐานเครื่องยนต์ R12 S นั้นใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกับรุ่น R NineT เครื่องยนต์ Boxer ขนาดเครื่องยนต์ 1,170 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 115 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์แบบ 6 สปีด
ช่วงล่างเพียงพอต่อการใช้งาน
ในของส่วนระบบช่วงล่างจะใช้พื้นฐานเดียวกันกับ R 12 ติดตั้งโช้ค USD ขนาด 45 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า สามารถปรับระดับได้ ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ Paralever และปรับพรีโหลดได้ ระบบเบรก ด้านหน้าให้ดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์โมโนบล็อกแบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ด้านหลัง ให้ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ เป็นมาตรฐานเเบบเดียวกัน
การออกแบบดีไซน์
เนื่องจากเป็นโมเดลที่เน้นไปที่การหวนคืนอดีตซึ่งเน้นองค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่นของ R12 S ได้แก่ แฟริ่งติดแฮนด์บาร์พร้อมกระจกบังลมสีเข้ม เบาะนั่งที่เย็บตัดขอบอย่างประณีต
และสีตัวถัง Lavaorange Metallic ซึ่งเป็นการรำลึกถึงสี Daytona Orange อันเลื่องชื่อของ R 90 S ในปี 1975 การออกแบบนี้ยังเพิ่มความพิเศษด้วยรายละเอียด เช่น ตัวอักษร ‘S’ สีแดงบนแผงด้านข้าง เส้นคู่สีแดง และพื้นผิวอะลูมิเนียมขัดเงาเคลือบใสที่ถังน้ำมันและส่วนท้ายเบาะ เพิ่มความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว
R12 S โดดเด่นในฐานะรถสปอร์ตเรโทรด้วยคุณสมบัติมาตรฐานที่ครบครัน เช่น ล้อ Option 719 Classic II แบบซี่ลวด พร้อมขอบล้ออะลูมิเนียมอโนไดซ์สีธรรมชาติเงางาม ไฟหน้า Headlight Pro
เทคโนโลยีล้ำสมัย
ถึงแม้ตัวรถคันนี้จะถูกออกแบบดีไซน์ให้มีสไตล์โมเดิร์น-เรโทร และหน้าจอเรือนไมล์ก็คงความเป็นอนาล็อคเอาไว้ แต่เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับรถคันนี้จัดมาให้แบบไม่ธรรมดาไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Control), ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ (Shift Assistant Pro), มือจับอุ่น (Heated Grips) และระบบควบคุมความเร็ว (Cruise Control)
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งจากโรงงานให้เลือก เช่น ระบบควบคุมแรงดันลมยาง (RDC), ระบบป้องกันการโจรกรรม (DWA),ระบบโทรฉุกเฉินอัจฉริยะ(Intelligent Emergency Call), ระบบ Connected Ride Control และหน้าจอดิจิทัลแบบ Micro-TFT ที่เป็นทางเลือกแทนมาตรวัดทรงกลมแบบคลาสสิก
ในส่วนของการจัดจำหน่าย BMW R 12 S จะเริ่มทำตลาดในอเมริกาเหนือ ช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 กับราคาเริ่มต้นที่ 21,590 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 739,000 บาท อย่างไรก็ตามทาง BMW Motorrrad Thailand ก็ยังไม่มีประกาศนำมาจัดจำหน่ายในตอนนี้ เเต่มีการเปิดตัวรุ่น R 12 เเละ R12 NineT ในงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา โดยราคาวางจำหน่ายของรุ่น R12 มีราคาเริ่มต้นที่ 739,000 บาท และ R12 NineT มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 749,000 บาท
อย่างไรก็ดีแฟน ๆ สาวกค่ายใบพัดสีฟ้าที่อยากจับจองเป็นเจ้าของเจ้า R12 S คันนี้คงต้องรอกันต่อไปอีกสักพักใหญ่ หรืออยากได้ฟีลลิ่งก็สอย R12 มาขี่เล่นพลาง ๆ แก้ขัด ก่อนก็ได้นะ
อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก