โค้งสุดท้าย “โมโตจีพีประเทศไทย” เดินหน้าจัดเต็มเข้มทุกภาคส่วน รองรับเกมสองล้อระดับโลก
รัฐ-เอกชน-สนามช้างฯ เร่งระดมกำลังอย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงสัปดาห์ประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทยในการเป็นเจ้าภาพสุดยอดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่าง “MotoGP” ซึ่งจะดวลความเร็วสนาม 17 ปลายเดือนนี้ที่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่ผู้ชม 800 ล้านคนทั่วโลก ขณะ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซ้อมเข้มกรรมการภาคสนามและทีมแพทย์รองรับเรซสุดยิ่งใหญ่
ประเทศไทยเตรียมรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP 2022 รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน- 2 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ภายใต้การรอคอยของแฟนความเร็วทั่วโลก
ล่าสุดสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถูกใช้เป็นสังเวียนสำหรับการแข่งขัน ก็เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่าง “MotoGP” อย่างเต็มร้อยแล้ว ทั้งพื้นที่จัดงาน, กรรมการภาคสนาม และการบริการด้านต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมเผยแพร่การแข่งขันและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามของประเทศไทย ไปกว่า 207 ประเทศ สู่ผู้ชมราว 800 ล้านคนทั่วโลก
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขบวนรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บางส่วนของทีมงานโมโตจีพี ได้เดินทางมาถึงสนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคอนเทนเนอร์ล็อตแรกเป็นการขนส่งอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการแข่งขัน เพื่อติดตั้งล่วงหน้า รวมทั้งการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ สแตนด์ผู้ชม พาวิลเลียน และบูธกิจกรรมต่างๆ
ด้านความพร้อมในส่วนของกรรมการภาคสนามและทีมกู้ภัย (Marshall) ก็มีการฝึกอบรมและซ้อมอย่างหนัก ฝึกซ้อมให้สัญญาณธงและการกู้ภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในการแข่งขัน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มความมั่นใจให้กับนักแข่ง ทีมแข่ง รวมไปถึงผู้จัดการแข่งขัน
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการของ “ทีมแพทย์” และศูนย์การแพทย์ใน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในการซ้อมรับมือเคสฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสนามแข่งขันในเรซระดับโลก
ขณะเดียวกันการขนส่งผู้ชมเข้าออกสนาม นอกจากจะมีรถ City Transfer และ Shuttle Service ให้บริการแล้ว ยังมี “ชัตเติลแต๋น” รถอีแต๋นภูมิปัญญาไทย ซึ่งถูกปรับมาเป็นรถรับส่งที่เป็นเอกลักษณ์โด่งดังไปทั่วโลกในโมโตจีพี 2 ครั้งแรก ปีนี้จะยังคงมีให้บริการเช่นเคย ถือเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ในการแข่งขันครั้งนี้ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยรถส่วนตัว หรือใช้บริการ City Transfer สามารถมาขึ้นรถได้ที่จุดบริการ Shuttle Service บริเวณประตู 1 เพื่อเข้าสู่พื้นที่การจัดงาน
มีให้บริการทั้งหมด 3 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 (สีฟ้า) จากประตู 1 สู่ลานกิจกรรม (ไป-กลับ) แวะรับ-ส่งที่ไซด์ สแตนด์ D
เส้นทางที่ 2 (สีส้ม) จากประตู 2 สู่ลานกิจกรรม (ไป-กลับ)
เส้นทางที่ 3 (สีชมพู) จากลานกิจกรรม สู่ไซด์ สแตนด์ A (ไป-กลับ)
สำหรับทัพนักบิดระดับโลกกว่า 100 คน ในศึก โมโตจีพี, โมโตทู และ โมโตทรี อยู่ระหว่างการเดินทางไปแข่งขันสนาม 16 ที่ประเทศญี่ปุ่นในสุดสัปดาห์นี้ ก่อนเดินทางต่อมายังประเทศไทยเพื่อดวลความเร็วในศึก “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ระหว่างวันที่ 30 กันยายน- 2 ตุลาคม 2565
โดยจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวและกีฬา โดยดอร์น่าสปอร์ต เจ้าของสิทธิ์การแข่งขัน ยกทีมงานมาถ่ายทำวีดีโอโปรโมตประเทศไทยและการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “MotoGP” โดยมี “นักบิดโมโตจีพี” เป็นตัวชูโรง ร่วมกับ “2 นักบิดไทย” ในรุ่น Moto2 อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย และ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ จาก ยามาฮ่า วีอาร์46 มาสเตอร์ แคมป์ โดยมีคณะผู้บริหารจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุน อาทิ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ร่วมให้การต้อนรับ ในวันที่ 27 กันยายนนี้ ที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน งานเริ่มตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป เปิดให้แฟนคลับโมโตจีพีเข้าร่วมงานได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bric.co.th/thailandgrandprix
หรือที่ LINE Official การแข่งขัน โดยกดเพิ่มเพื่อนที่ไอดี @thailandgrandprix
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
โค้งสุดท้าย “โมโตจีพีประเทศไทย”