Home สัมภาษณ์ นักแข่งแถวหน้าเมืองไทยกับการ เลือกใช้ยางในสนามแข่ง..!!

[บทสัมภาษณ์] นักแข่งแถวหน้าเมืองไทยกับการ เลือกใช้ยางในสนามแข่ง..!!

0

บทสัมภาษณ์ นักแข่งแถวหน้าเมืองไทยกับการ เลือกใช้ยางในสนามแข่ง

นี้คือบทสัมภาษณ์พิเศษกับ 3 นักแข่ง แถวหน้าของเมืองไทยที่ได้ยืนในโพเดี้ยมในรายการ OR Bric Superbike Championship Round 4 ในรุ่นการแข่งขัน Superbike 1000cc รุ่น SB1 บทสัมภาษณ์เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของนักแข่งในการเลือกใช้ยางและประเภทของยาง

ในการแข่งขันที่มีสภาพอากาศแปรปรวนฝนตกๆหยุดๆ ตลอดเวลาทำให้พื้นแทร็กมีสภาพเปียกชื้น อุณหภูมิต่ำจึงมีผลต่อการเลือกใช้ยางฝน นี้คืออุปสรรคที่สามารถประเมินได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่สำคัญในการแข่งครั้งนี้คือ การวางแผนของทีมแข่ง ตัวนักแข่ง ทีมช่างที่จะเลือกใช้ยาง และปรับเซทองค์ประกอบต่างๆของตัวรถได้อย่างลงตัว

จากการสัมภาษณ์ ของ 3 นักแข่งหัวแถวอย่าง “ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล #88 , “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร #100, และ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ #41 นักแข่งทั้ง 3 ท่าน ใช้ยาง Pirelli Diablo Wet เพราะสภาพอากาศในบางช่วงของสนามที่เม็ดฝนเบาลง มีเพียง“ละออง” น้ำเล็กเพียงน้อย
ในส่วนของนักแข่งได้ลองขี่ในช่วงก่อนแข่งขันจริง จึงมีการตัดสินใจที่แตกต่างกันออกไปในรอบแข่งจริงของแต่ละคนกลับไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนก็มีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน การตัดสินใจจึงต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวที่เหมือนกันกันคือ ชัยชนะ ในเรซนี้

บทสัมภาษณ์นี้จะชี้ให้เห็นถึงการวางแผนแผนและสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน

“ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล ผู้ที่คว้าชัยในเรซนี้ เลือกใช้ Diablo Rain ในการแข่งขัน จากการสัมภาษณ์ “ซีเค” ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่เลือกใช้ Rain เพราะการสังเกตในช่วงที่ยังไม่ได้แข่ง บอกว่าเห็นคู่แข่งบางคนมีอาการลื่น ในโค้ง 3 และ 8 และมีการคิดคำนวนคาดเดาเป็นการส่วนตัว ไว้ว่าฝนมีโอกาสที่จะตกหนักขึ้นจากที่ละอองฝนไม่เท่ากันในสนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้บอกกับทีมช่างให้เตรียมยาง “Rain” รอไว้เผื่อเปลี่ยนใจ

และหลังจากจอดที่กริดสตาร์ทก็ให้ทีมช่างรีบสลับยาง แต่ก็ยังมีลังเลอยู่บ้าง แต่จากที่ “ซีเค” เล่าให้ฟังเพิ่มเติมคือเป็นคนที่ได้ซ้อมกับยาง Rain มาบ่อย และเข้าใจยางดีจึงตัดสินใจเลือกยาง  Rain  มาใส่แข่งจนจบการแข่งขัน

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผลการแข่งขันคือเวลา ที่ทิ้งห่างซึ่งเป็นเหตุมาจากการอ่านป้ายบอกเวลาผิด…ซึ่งซีเคเข้าใจว่าป้ายเวลาที่ทีมงานชูให้เห็น เป็น .4 (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วป้ายบอกว่า 4 วินาที)
จึงพยายามที่จะขับให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ เพื่อ “หนี” ทิ้งห่างด้วยเวลา 1:47.459 จนกระทั่งมาถึงรอบหลังๆที่ตัวเลขที่ป้าย เพิ่มเป็น 13 วินาที จึงเข้าใจว่า อ่านผิดมาตั้งแต่ Lap แรกๆ ถือว่าเป็นการดีในสนามนี้ที่กดเวลาได้ดีอีกด้วย

ในฝั่งของ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร เข้ารับธงตารางหมากรุกในอันดับที่ 2 คาดการณ์ไว้ว่าฝนจะเริ่มซาลงในระหว่างการแข่ง แต่ไม่ถึงกับหยุด จึงเลือกใช้ยาง Diablo Wet ทั้งในรอบและใช้ยาง Wet ในการแข่งในเรซนี้ แต่แผนของ “ติ๊งโน๊ต” คือ Play Safe ด้วยเวลาและตำแหน่งที่คงที่เพื่อเก็บแต้มสะสม เนื่องจากในสนามแรก เจ้าตัวเกิดพลาดล้ม

ทำให้ไม่มีผลการแข่งขันและพลาดแต้มเข้าชิงตำแหน่งแชมป์ OR Bric Superbike Championship จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องกดเวลาใน Race นี้เป้าหมายของ “ติ๊งโน้ต” ที่ตั้งใจคือแชมป์ประเทศไทย ซึ่งต้องไปลุ้นในการแข่ง R2M อีกสนามสุดท้าย ส่วนเวลา Best Lap 1:48.575 ของ “ติ๊งโน้ต” ห่างจากทีมเมทแค่หลักวินาที ถือว่าเป็นการขี่ใน Safe Zone ที่เร็วพอสมควรเลยละ

ส่วน “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่เข้ารับธงตารางหมากรุกอันดับที่ 3 กลับเป็นนักแข่งที่เลือกยางแหวกแนวที่สุดใน OR Bric Superbike Championship Round 4 รุ่น SuperBike 1000 SB1 ซึ่งเหตุผลในการ
เลือกใช้ยาง Pirelli Diablo Superbike หรือยาง สลิก มาจากการที่หวังว่าสนามจะแห้งมากพอ ในช่วงก่อนที่จะแข่ง “ชิพ” จึงตัดสินใจเลือกยางสลิกในการแข่งในเรซนี้

ซึ่งจากแผนในการแข่งที่ “ชิพ” ได้เล่าให้ฟังคือ รู้อยู่แล้วว่ายางสลิกไม่ถูกกับน้ำ แผนคือขี่ตามไลน์ที่คันหน้าใช้ยาง Wet/Rain แหวกน้ำไว้ให้จะได้ใช้ยางสลิกประคองไปเรื่อยๆ และหวังว่าฝนจะหยุดตกในช่วงหลัง ถ้าสนามแห้งลง และยางเริ่มร้อนขึ้น จะกลายเป็นจุดได้เปรียบของยางสลิกโดยทันที “ชิพ” จึงขี่ถนอมยางมาเรื่อยๆ

แต่เคราะห์ร้ายที่ฝนกลับมาซาลงแค่ช่วงหลังๆ แค่ไม่กี่ Lap ยางสลิกที่ใช้จึงไม่ได้ถูกใช้งานเต็มที่ ยางที่ได้เปรียบเลยกลายเป็นยาง Wet/Rain  แต่ “ซิพ” กลับเป็นหนึ่งเดียวที่สามารถทำความเร็วสูงสุดของ Race นี้

ด้วยความเร็วที่ 291.3 km/h  และ สามารถทำเวลา Best Lap 1:47.866 ห่างจาก “ซีเค” แค่ 0.4 วินาที ซึ่งถ้ารายการแข่งมีจำนวนรอบมากกว่านี้อีกซักหน่อย ยางสลิกที่เขาเลือกจะได้เปรียบอย่างแน่นอน

จากการสัมภาษณ์ในการแข่ง จะเห็นได้ว่าการตัดสินใจของนักแข่งเอง และประสิทธิภาพของยาง มีน้ำหนักในการตัดสินใจที่เท่าๆกัน สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ต้องยกให้ Pirelli Diablo Rain เป็นพระเอก
นอกจากจะเป็นยางที่ “ซีเค”  ตัดสินใจใช้ในวินาทีสุดท้าย แล้วยังสามารถ ช่วยให้ ซีเค ฉีกทิ้งห่างมาได้เรื่อยๆ เพราะยาง Rain ออกแบบมาใช้ในขณะที่ฝนตก หรือประเภทที่พื้นสนามมีน้ำเหมือนแผ่นฟิลม์เคลือบอยู่

แต่ในส่วนของลายยาง Diablo Wet จึง ได้เปรียบในการแหวกน้ำในสนามนี้ ถึงแม้ว่า Diablo Wet จะเสียเปรียบในขณะที่ฝนตกเพิ่มขึ้น เพราะอัตราส่วนของหน้ายางที่สัมผัสพื้นผิวแทร็กที่มากกว่าทำให้รีดน้ำได้ดีไม่เท่ายาง  Diablo Rain แต่ถ้าหากการแข่งในรอบนี้ มีแต่พื้นชื้นๆเราอาจได้เห็นผลการแข่งที่แตกต่างก็เป็นได้

สำหรับม้ามืดในสนามนี้กับการตัดสินใจของชิพเอง ก็ต้องยกให้ Diablo Superbike หรือยางสลิก ที่แม้จะไม่มีดอกยางไว้รีดน้ำเลย ก็ประคองให้แข่งจบได้ แถมยัง กด Top Speed
ได้สูงสุดในการแข่งรอบนี้ ถ้าหากช่วงท้ายของการแข่งขัน ฟ้าเปิด ฝนหยุด อุณหภูมิของยางสลิกที่ค่อยๆร้อนขึ้นกับพื้นสนามที่ถูกคันหน้าแหวกน้ำจนแห้ง จะทำให้ ยาง Diablo Superbike  ได้เปรียบขึ้นมาแน่นอน

บทความสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ทำให้เห็นได้ถึงการตัดสินใจของนักแข่งระดับมืออาชีพแถวหน้าของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับการ เลือกใช้ยางในสนามแข่ง และการเลือกใช้ประเภทยางให้ถูกต้องเหมาะสมตามสภาพแทร็กแข่งขัน
ตัวแปรปัจจัยต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในสนามแข่ง เป็นบทพิสูจน์อีกอย่างนึงที่จะการันตีประสบการณ์นักแข่ง และดีกรีเทคโนโลยียางเกรดแข่งขันของแบรนด์ Pirelli ที่จะสามารถช่วยเคลมผลงานในสนามแข่งระดับโลกออกมาได้เป็นที่พอใจของนักแข่งและทีมแข่งอีกด้วย…

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version