Home Yamaha News เข้าใจ Yamaha YZF-R7 จากมุมมองของผู้บริหารไทยยามาฮ่า

เข้าใจ Yamaha YZF-R7 จากมุมมองของผู้บริหารไทยยามาฮ่า

0

เข้าใจ Yamaha YZF-R7 จากมุมมองของผู้บริหารไทยยามาฮ่า

Yamaha YZF-R7 มีเป้าหมายเป็นคนกลุ่มไหนยังไงบ้าง? แล้วมันจะทับไลน์กับ R6 มั้ย?

TYM : สำหรับ R7 เราวางตำแหน่งสินค้าไว้ว่าหลักๆ มี 3 กลุ่มนะครับ 

  • กลุ่มแรกคือคนที่อยากเซ็ทอัพเป็นบิ๊กไบค์ 
  • กลุ่มที่สองคือคนที่ขี่เรซซิ่งอยู่แล้ว
  • กลุ่มที่สามคือกลุ่มที่อยากได้ทั้งคู่ คืออยากจะขับขี่แบบสปอร์ตและก็การขับขี่ท่องเที่ยวไปด้วย 

ซึ่งโมเดลนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งในแบบเรซซิ่งและเดินทางก็ได้ด้วย ส่วน R6, R1 จะเป็นระดับที่สูงกว่า ไม่ทับไลน์กัน คนที่ขี่ R6 ก็จะขยับขึ้นไป R1 ไม่ลงมา R7 แน่นอนครับ อีกอย่างยังมีราคาจับต้องได้ง่ายกว่ามาก คิดว่าคุ้มค่ามาก ๆ 

และจากการพูดคุยกับลูกค้ามาตลอดก็สัมผัสได้ว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้ซื้อรถแล้วก็ขี่ด้วยตัวเองคนเดียว เป็นกลุ่มที่อยากได้ประสบการณ์หลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกขับขี่ซึ่งทางเรามีทาง YRA คอยสอนเรื่องเทคนิคการขับขี่แบบเรซซิ่งด้วย โดยมีเบสิค แล้วก็แอดวานซ์ให้ด้วย แล้วก็มีกลุ่มที่ชอบท่องเที่ยวไปด้วยนะ เราก็จะมีจัดกลุ่มท่องเที่ยวที่จะมีทริปต่าง ๆ ที่จะนำเสนอขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้

ตั้งเป้ายอดขายอย่างไรบ้างครับ?

TYM : – ปีนี้เนี่ยเหลือแค่ 3 เดือน คิดว่าน่าจะได้สัก 250 คัน คือเรามองเป็นช่วงเวลา อีกสัก 3 ปีข้างหน้าทางเราคิดว่าน่าจะได้สัก 2,000 คันน่าจะได้ เพราะหลังจากที่เปิดตัวกันที่อเมริกา และยุโรป ก็มีผลตอบรับดีมาก ที่อเมริกา 3 เดือนขายไปแล้วเป็นพันคัน ก็คิดว่าที่ไทยก็น่าจะขายดีด้วย ซึ่งตอนช่วงที่ไลฟ์สดไปครั้งที่แล้ว ก็มีเปิดให้จอง 200 คันแรกก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้ก็ลูกค้าก็ได้รับรถไปบางส่วน ตอนนี้ล่าสุดยอดจองก็อยู่ประมาณ 150 คัน

โปรโมชัน 200 คันแรกได้อะไรบ้างนะครับ

TYM : – โปรโมชั่นสำหรับ 200 คันแรก ตอนนี้ก็จะเป็นใช้เงินดาวน์เพียง 7,900 บาท ได้รับอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษที่ 3.95 % ต่อปีผ่อนต่อเดือน 60 เดือนตกประมาณเดือนละ 6,000 บาท โดยเราเซ็ทราคาที่ลูกค้าเอื้อมถึง จับต้องได้ไม่ยากเลย แล้วก็แถมฟรีประกันภัยชั้น 1 ไปด้วย ซึ่งตอนที่เปิดไปปุ๊ปเนี่ยเมื่อวันที่ 7 ตุลา วันแรกเนี่ย 50 คันหายไปทันทีภายในประมาณสัก 3 ชั่วโมง 

หลังจากนั้นก็ยังมีทยอยมาเรื่อย ๆ มีจองเข้ามาทางออนไลน์ ก็ตอนนี้ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าประมาณ 150 คันตอนนี้นะ เพราะงั้นก็ฝากประชาสัมพันธ์แล้วกันนะครับ รีบๆ เข้ามานะครับเดี๋ยวจะหมด ล่าสุดมียอดจองมา 7 คันที่นวมินทร์ มาจากลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ขี่ R15 กับ R3 อยู่ เห็นแล้วก็อยากมาขี่อยากมาเป็นลูกศิษย์อาจารย์เป็ด เพราะเห็นเพื่อนๆ มาเรียนแล้วอยากมาบ้าง มา 7 คนมาจอง 7 คัน ต้องเรียนอย่างนี้ว่า ขับยามาฮ่าไม่มีเหงา เพราะเรามีกิจกรรมให้คุณทั้งปี

ที่บอกว่าตั้งเป้าในไตรมาสสุดท้าย 250 คัน ตอนนี้ไปประมาณร้อยกว่าคันแล้ว คิดว่าเป้าจะทะลุไหมแล้ว รถที่เราจะส่งมอบภายในปีนี้คิดว่าทั้นมั้ยครับ

TYM : – ก็คาดว่า คิวตอนนี้น่าจะประมาณธันวาคมนะครับที่จะได้ตามเป้าครับ

สถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้แล้วสภาวะของโควิดแบบนี้ แต่เปิดตัวโมเดลใหม่แบบนี้คิดอย่างไรบ้างครับ

TYM : – คือผมว่ามันรวมๆ กันนะครับ คือโควิดกับเศรษฐกิจมันผูกรวมไปหมด แต่ว่าสิ่งที่กระทบคนขี่บิ๊กไบค์มันออกมาขี่ไม่ได้ จริง ๆ กำลังซื้ออะไรมันไม่มีผลเท่าไหร่ ดังนั้นปัจจัยด้านเศรษฐกิจเนี่ยมีน้อยกว่า 

ปัจจัยหลักคือขี่ไม่ได้มากกว่า อย่างตอนนี้ค่อย ๆ เปิด ค่อย ๆ มากันได้เนี่ยเป็นปัจจัยหลัก ก็คิดว่าจากนี้ไปสถานการณ์น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น ผมว่าจุดต่ำสุดน่าจะผ่านไปแล้ว

แล้วอย่างนี้ทางยามาฮ่าได้เตรียมกิจกรรมหรือเตรียมอะไรไว้รองรับสำหรับลูกค้าที่จะมาเป็นกลุ่ม R7 ซึ่งในอนาคตบ้างไหมครับ

TYM : –  แน่นอนครับ ทางเราก็ได้มีกิจกรรมต่าง ๆ ไว้เตรียมอยู่แล้วเช่น Yamaha Big Bike Training, Yamaha Riders’ club meeting, Yamaha The Unexpected Journey สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ท่องเที่ยว หรือจะเป็น Yamaha Racing Clinic, Yamaha Racing Practice และ Yamaha Championship สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ในสนาม 

คาแรคเตอร์ของ R7 กับ R6 ใกล้เคียงกัน แต่การดีไซน์ที่มี DNA ในแบบของ R-Series ซึ่งถ่ายทอดมาจากรุ่นพี่ แต่มันเป็นเครื่อง 2 สูบ จึงเล็กและเบา แล้วการดีไซน์ตัวโครงมันทำให้ดูปราดเปรียว เพราะเค้าตั้งใจว่ากลุ่มลูกค้าเนี่ยจะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เน้นในการขับขี่ในสนามเพียงอย่างเดียว แต่ยังชอบใช้ชีวิตประจำวันหรือการขับไปท่องเที่ยวทัวริ่งต่าง ๆ ด้วย 

เราดีไซน์ให้รถมันขี่สนุก เข้าโค้งได้ดี หลาย ๆ คนจะรู้ว่าเครื่อง Crossplane 2 สูบมีแรงบิดดี ซึ่งแรงบิดเนี่ยจะมาในช่วงกลาง ๆ เวลาขับขี่ แล้วในชีวิตประจำวันเนี่ยไม่มีใครใช้ความเร็วสูงสุดได้ตลอด ส่วนใหญ่ก็อยากจะได้แรงบิดดี ๆ อยากได้อัตราเร่งแซงที่ดีใช่ไหมครับ พอมันมารอบกลาง พอเราจะเปิดแซงหรือเร่งออกจากโค้งก็ทำได้ดี ไม่จำเป็นต้องเชนเกียร์ลงต่ำ แค่เปิดคันเร่งมันดึงพละกำลังออกมาได้เลย ซึ่งมันต่างกับ R6 อาจจะต้องลากรอบที่สูงหน่อย 

อย่างนี้แสดงว่าจุดเด่นอยู่ที่รอบกลางใช่มั้ยครับ

TYM : – ใช่ครับ ที่รอบกลางไม่ว่าจะแรงม้า หรือว่าแรงบิดเนี่ยมันมาที่รอบกลาง ๆ เพราะงั้นมันขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สนุกแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูงเลยนะครับ แล้วก็ตัวช่วงล่างต้องขอบอกเลยว่า อันนี้มันที่สุดในคลาสแล้ว ก็คือโช้คหน้ามันปรับได้หมด ซึ่งมันหาไม่ได้ในคลาสเดียวกัน ข้างหลังก็ปรับได้ทั้งพรีโหลดทั้งรีบาวด์ คุณสามารถสนุกกับถนน คุณจะปรับให้มันนุ่มหน่อย หรือว่าคุณจะลงสนามปรับให้มันแข็งหน่อยมันทำได้หมด ได้ดั่งใจนี่คือสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ R7 ที่คุณต้องไปลองครับ 

แล้วจะยืนราคานี้ไปตลอดไหมครับ หรือว่าเฉพาะช่วงโปรโมชั่น

TYM : – ไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ

– ทำไมมันถึงมาเป็นตอนนี้ (R7) คือมันเป็น material สักอย่างที่ยามาฮ่ามีมา โปรเจค R7 เนี่ยผมเข้าใจว่ามันไม่ได้มาแทน R6 หรอก เพราะ R6 มันเป็น segment ที่แตกต่างอยู่แล้ว ถ้าคนรู้ก็จะรู้ว่ามันไม่ได้แทนอะไรกันเลย เพราะว่า R6 มันมีเวลาของมันจะต้องจบ แต่ R7 มาสอดรับพอดีทั้งๆ ที่ widget อะไรมันก็มีมานานแล้ว มีตั้ง 3 โมเดลอยู่แล้ว แล้วเพิ่งมาเปิดตัว คือมันควรจะมาก่อนหน้านี้ มันมาเติมไลน์อัพที่แบบโอเค สำหรับคนเริ่มต้นไม่ต้องถึงกับ R6 ไปเลย หรือว่า R1 ไปเลยมันไกลตัวเกินอะไรอย่างนี้ ตอนนี้คือปัญหานึงคือต้องพยายามชี้แจงคนข้างนอกว่า มันไม่ใช่ sport pure bike ที่แบบต้องอยู่แค่บน track อย่างที่บอกว่ามันบน street ได้อะไรอย่างนี้ แต่ว่าอิมเมจมันเหมือนว่ามันไม่ชัดเจนอะไรประมาณนี้ นี่มันเป็น Global Model นะเค้าทำ develop ที่ญี่ปุ่น ออกแบบใหม่เพื่อ R7 จุดตรงนี้ชัดเจนอยู่แล้ว คือเค้าดูตลาดทั่วโลก แล้วก็จะมีแนวโน้มว่าพวก Nakked ก็เป็นพวกหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็จะมีช่องว่างตรงนี้อยู่ เป็น empty bike ของบิ๊กไบค์ ก็เรียกว่าใหญ่พอที่จะลงทุนและทำจริงจัง คือการคาดการณ์ก็ยากเหมือนกัน จากนี้ R7 ก็จะพัฒนาต่อเนื่องไปอีกเป็นซีรีส์ขึ้่นมาเรื่อยๆ ก็ถ้าดูจากตลาดนะครับ ดูปริมาณ

คันนี้นำเข้าจากญี่ปุ่นใช่มั้ยครับ แบบนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งอย่างนึงเลย  ได้มาขายในไทยประมาณกี่คันครับ 

TYM : – ปีหนึ่งประมาณ 1 พันคันครับ

เราได้รถจากทางนั้นแล้วใช่ไหมครับ

TYM : – ก็ปีนี้ตั้งเป้าไว้ว่า 250 ภายใน 3 เดือนนี้ครับ คงส่งมอบได้ปีหน้า เราก็จะพยายามจะส่งมอบรถให้ทันต่อความต้องการ

ทันที่จะจัดแข่ง R7-Series ครั้งแรกของโลกไหมครับ ถ้าจะจัดแข่งใน BRIC สนามหน้า

TYM : – ถ้าเป็นทางการที่แข่งจริง ๆ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ต้องดูก่อนเพราะว่าเรื่องโควิดเพราะยังไม่มีความไม่แน่นอน ถ้าชัดเจนแล้วจะประกาศทีเดียวครับ

อะไหล่มันแชร์กับ MT-07 ได้บ้างไหมครับ

TYM : – ได้ครับ ในเรื่องของเครื่องยนต์ ระบบไฟ ชุดเกียร์บางส่วน แล้วก็ในเรื่องของโครงหน้า

ยามาฮ่ามีแพลนแพ็กเกจหรืออะไรที่เพิ่มเติมให้ลูกค้าเลือกบ้างไหมครับ

TYM : – กำลังศึกษาอยู่ครับ เพราะว่ามันก็มีทั้งชุดที่มีของในประเทศ แล้วก็มีของ GYTR ที่เป็นของยุโรป เราก็ต้องดูความเหมาะสมว่ากำลังซื้อของลูกค้าจะเป็นอย่างไร เรากำลังพิจารณาอยู่ครับ

ทางยามาฮ่าอยากฝากอะไรเป็นพิเศษกับโมเดลนี้ครับ

TYM : – (ของมันต้องมีครับ) ถ้าเป็นไปได้อยากให้มาดูมาลองขับขี่ที่ YRC ทั่วประเทศ 15 สาขาที่อยู่ยินดีต้อนรับครับ คือมันมีอิมเมจเฉพาะตัวของมันอยู่ครับ และตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปเราก็จะมีทดสอบกระจายไปทั่วประเทศ เพราะเราอยากให้มาดูตัวจริง งานประกอบหรือวัสดุที่สมกับคำว่า Made in Japan ผมว่ามันสุดในคลาสแล้วครับ

จบการสัมภาษณ์นี้แล้วทางเราก็ได้แต่หวังว่าแฟน ๆ ที่กำลังสงสัยจะ เข้าใจ Yamaha YZF-R7 มากขึ้น และอาจจะตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version