หมวกกันน็อค มีวันหมดอายุ จริงหรือ?

หมวกกันน็อค มีวันหมดอายุ จริงหรือ?

หลาย ๆ คนที่เป็นนักบิดก็ย่อมรู้กันอยู่แล้วว่าขับขี่ก็ต้องใส่หมวกกันน็อคทุกครั้ง รู้กฎจราจรดี รู้กระทั่งว่าใบขับขี่มีวันหมดอายุ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า หมวกกันน็อค หมดอายุ ได้ด้วยนะ ว่าแต่หมดเมื่อไหร่ หรือควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ คุณรู้แล้วหรือยัง บทความนี้จะมีคำตอบของคำถามเหล่านี้ให้ครับ

ปกติแล้วผู้ผลิตไม่ได้ระบุวันหมดอายุของหมวกฯ แบบนมพาสเจอร์ไรซ์หรอกครับ แต่อย่างไรก็ตามหมวกฯ ที่เราใส่ขับขี่ทุกวันนี้เนี่ยต้องเผชิญกับสารพัดอย่าง ทั้งสภาพอากาศแวดล้อม ทั้งเศษฝุ่นละออง ดิน หรือหิน หรืออาจจะแรงกระแทก หรือปัจจัยอื่น ๆ กระทั่งความล้าสมัยไม่ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่เองก็เช่นกัน โดยทั่วไปแล้วจึงมีกฎที่เข้าใจโดยทั่วไปว่า

“คุณควรจะต้องเปลี่ยนหมวกใหม่อย่างน้อยก็ทุก ๆ 5 ปี”

ปกติแล้วค่ายผู้ผลิตจะไม่พูดเรื่องวันหมดอายุอย่างที่ผมเกริ่นไปหรอก จะป้ายหรือจะสติ๊กเกอร์ก็ไม่มีแปะอยู่ที่หมวกเลย มันก็ควรใส่ได้ตลอดไปไม่ใช่เหรอ? แต่อย่าลืมครับว่าหมวกฯ นั้นมีวัสดุหลาย ๆ อย่าง เช่น เรซิ่น กาว โพลีสไตรีน และวัสดุที่ใช้ในนวมหมวกอย่างผ้าหรือเส้นใยอื่น ในการผลิตเสมอ ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะไม่ได้มีสภาพสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนวันแรกที่ผลิตออกมาอย่างแน่นอน วัสดุต่าง ๆ ล้วนมีการเสื่อมสภาพทั้งจากสภาพอากาศ แสงแดด และกาลเวลา เป็นสาเหตุให้คุณสมบัติในการป้องกันลดน้อยถอยลงตามไปด้วยนั่นเอง

อย่างไรก็ตามบางคนอาจจะคิดไปว่า การเปลี่ยนหมวกใหม่ทุก 5 ปี เป็นเรื่องของการตลาด เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณจะต้องซื้อใบใหม่ทุก 5 ปี และนั่นเป็นผลดีต่อผู้ผลิต แถมก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าหมวกเมื่อครบ 5 ปีแล้วมันจะแย่ลงอย่างชัดเจน เพราะอย่างนั้นแล้วทำไมเราจึงต้องเปลี่ยนหมวกล่ะ?

“ทำไมต้องเปลี่ยนหมวกล่ะ? ดู ๆ แล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่าหมวกนั้นมีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนด้วยกัน คือ เปลือกหมวก ชั้นในตัวหมวก และนวมหมวก เป็นชั้น ๆ ติดเข้าด้วยกันไล่จากด้านนอกเข้ามาด้านใน

เปลือกหมวก เป็นส่วนที่รับแรงกระแทกเป็นส่วนแรกขณะเกิดอุบัติเหตุ ตัวเปลือกหมวกจึงถูกสร้างให้แข็งแรงทนทาน บางครั้งการกระแทกแรง ๆ อาจจะไม่ทำให้ตัวเปลือกหมวกกันน็อคแตกเสมอไป

ชั้นในตัวหมวก เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดของหมวกฯ เลยก็ว่าได้ เพราะมีหน้าที่ซับแรงกระแทกจากการเกิดอุบัติเหตุ เป็นชั้นที่จะคอยช่วยป้องกันศีรษะและสมองจากอาการบาดเจ็บที่จะได้รับด้วยการลดแรงกระแทกที่จะส่งผ่านเข้ามาด้วยวัสดุซับแรงกระแทก ซึ่งส่วนนี้มักจะเป็นวัสดุอย่าง EPS หรือที่บ้านเรามักจะเรียกว่าโฟมนั่นเอง

นวมหมวก เป็นส่วนที่มีไว้เพื่อความสะดวกสบายเวลาสวมใส่นั่นเอง เพราะส่วนนี้จะสัมผัสกับหน้าและศีรษะของคุณ วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะออกแบบมาให้ใส่ได้สบาย ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ดูดซับความชื้น เหงื่อและไขมันได้ และที่สำคัญคือจะต้องยึดติดกับหมวกด้านในไม่ขยับไปมาหรือหมุนไปมาได้ง่าย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผ้าและฟองน้ำ

เมื่อคุณรู้จักส่วนประกอบแล้วคุณก็จะเข้าใจว่าวัสดุแต่ล่ะอย่างไม่ได้เสื่อมใน 5 ปีแน่ โดยเฉพาะภายนอกหมวกไม่เห็นเป็นอะไรเลย เพราะเปลือกหมวกเป็นส่วนแข็งแรงทนทานที่สุด จะมีอายุเกิน 5 ปีก็ไม่แปลก นวมหมวกที่ทำจากโฟมก็เหมือนกันอยู่ได้หลายปีเลยนะกว่าจะย่อยสลายเสื่อมสภาพ นวมหมวกแม้จะโดนเหงื่อ โดนคราบไขมัน หรือความชื้น ก็จะเริ่มมีผลต่อความสบายของคุณ แม้ว่าคุณจะซักทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็ตาม มันก็จะยังเสื่อมสภาพอยู่ดี ซึ่งแก้ปัญหาด้วยการซื้อใหม่มาเปลี่ยน

อย่างไรก็ดีหากว่าเปลือกหมวกของคุณแตกร้าวจากอุบัติเหตุหรือทำตกคุณควรจะเปลี่ยนหมวกทันที การไปทำสีใหม่ไม่ได้ช่วยให้หมวกของคุณหายชำรุด และสาเหตุที่คุณควรจะเปลี่ยนหมวกจริง ๆ อีกข้อนึงหลังจากมันครบ 5 ปีแล้วก็คือ เรื่องของการที่หมวกของคุณมันล้าสมัย เนื่องจากเทคโนโลยีพัฒนาตลอด หมวกใบโปรดของคุณที่เคยใส่แล้วเบา ใส่แล้วสบาย อนาคตก็จะมีหมวกที่เบากว่า ใส่สบายกว่า มีฟังก์ชันที่ดีกว่า และแน่นอนปลอดภัยกว่า แล้วมันมีเหตุผลใดล่ะครับที่จะไม่เปลี่ยนไปใส่ของที่ดีกว่า นอกจากเสียว่าไม่มีเงิน หรือภรรยาไม่อนุมัติ

สุดท้ายนี้คุณจะไม่ต้องเชื่อบทความ “หมวกกันน็อค มีวันหมดอายุ จริงหรือ?” นี้ก็ได้ครับ ถ้าคุณดูแลรักษาหมวกของคุณได้ดีจนไม่มีความเสียหาย 6 ปีแล้วจะใส่ต่อก็ไม่ผิด กลับกันถ้าหมวกของคุณแตกร้าวตั้งแต่ปีที่ 2 คุณจะไม่เปลี่ยนตามคำแนะนำก็เป็นการเสี่ยงเสียเปล่า ๆ แต่เชื่อผมเถอะครับ 5 ปีก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วล่ะครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก