ลมยาง กับ 5 เรื่องที่คุณต้องรู้ เพื่อความประหยัดและปลอดภัย
แน่นอนว่าไบเกอร์อย่างเราๆ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์กันอยู่เป็นประจำ น่าจะพอรู้ว่า ลมยาง เป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงของรถ ถ้ารถของคุณไม่มีลมยางเพราะว่ายางรั่วหรือว่ายางแบน วันนั้นชีวิตของคุณก็จะต้องยุ่งยากลำบากกว่าที่เคยเป็นแน่
พูดถึงเรื่องลมยางนั้น ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะรู้ว่ารถที่คุณขี่นั้นจะต้องเติมลมเท่าไหร่ หรือว่าลมยางนั้นมีส่งผลกับรถอย่างไรบ้าง แต่ผมก็เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะไม่รู้ หรือไม่ บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ในบางประเด็น และในบทความนี้ผมได้ทำการลิสต์รายการออกมา 5 เรื่องพื้นฐานที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับลมยางครับ
- ลมยางคืออะไร
ลมยางหรือแรงดันลมยางนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าอากาศปริมาณนึงที่ถูกอัดเข้าไปในยางหรือในยางใน เพื่อที่จะให้ยางของรถนั้นสามารถคงรูปทรงรูปร่างและคงหน้าสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ได้ โดยมีหน่วยวัดแรงดันลมยางเป็นบาร์ (Bar) แต่ว่าในบ้านเรานิยมใช้ว่า PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
- ลมยางส่งผลต่อการขับขี่
ตอนนี้คุณน่าจะรู้แล้วว่าแรงดันลมยางนั้นมีผลให้ยางคงรูปทรงและรักษาหน้าสัมผัสกับพื้นถนนไว้ได้ ดังนั้นแรงดันลมยางมากหรือน้อยเกินไปก็จะทำให้ยางนั้นเสียทรงและคงหน้าสัมผัสกับพื้นถนนได้แตกต่างจากปกติ ซึ่งหน้าสัมผัสนั้นส่งผลต่อการยึดเกาะนั่นเอง
แรงดันลมยางมากเกินไปจะทำให้ยางนั้นมีหน้าสัมผัสกับพื้นถนนน้อยลง หากมากกว่าปกติเล็กน้อยก็จะมีข้อดีคือแรงเสียดทานน้อยลง ทำให้เครื่องรับภาระน้อยลง ทำให้ประหยัดน้ำมัน
แต่ในขณะเดียวกันหากลมยางเกินไปมากก็มีผลเสียคือทำให้การยึดเกาะน้อยของยางก็จะน้อยลงไปด้วยซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ ทั้งยังทำให้การขับขี่แข็งกระด้างรวมถึงยางตรงกลางจะสึกหรอมากกว่าปกติ
ในทางตรงกันข้ามหากลมยางน้อยเกินไปเล็กน้อยก็จะทำให้มีหน้าสัมผัสมากขึ้น ให้การยึดเกาะดีขึ้น แต่ก็จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ทว่าหากน้อยเกินไปมากยางก็เสียรูปทรงหรือโปรไฟล์ ยางจะสึกหรอบริเวณไหล่ยางมากกว่าปกติ
- ลมยางเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิ
หากคุณเรียนสายวิทย์มา หรือมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์อยู่บ้าง คุณอาจจะรู้ว่าอากาศนั้นเป็นสสารประเภทก๊าซ ซึ่งจะมีคุณสมบัติเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามภาชนะ และจะมีปริมาตรที่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นก๊าซจะขยายตัว แน่นอนว่าเมื่อมีการขยายตัว แต่พื้นที่ในยางยังคงเท่าเดิม ดังนั้นแรงดันลมยางจะเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากอุณหภูมิลดลงก๊าซจะหดตัว ดังนั้นแรงดันลมยางก็จะลดลง
และด้วยเหตุผลนี้จึงเป็นเหตุผลว่าหากจะวัดลมยางต้องวัดตอนยางยังเย็นอยู่นั่นเอง เพื่อที่จะได้ค่าที่แม่นยำที่สุด ทางที่ดีคือวัดลมยางและเติมลมยางตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ออกเดินทาง หากไม่มีปั๊มลมและจำเป็นต้องเดินทางออกไปเติมอาจจะต้องจอดรอให้ยางเย็นก่อนสักหน่อย
- ลมยางที่ถูกต้องเหมาะสมช่วยยืดอายุยางได้
มาถึงจุดนี้แล้วก็น่าจะเข้าใจว่าทำไมแรงดันลมยางที่เหมาะสมสามารถยืดอายุการใช้งานของยางได้ การเติมลมยางมากหรือน้อยเกินไปล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียกับยาง อย่างที่อธิบายไปก่อนในหัวข้อว่า ลมยางส่งผลต่อการขับขี่
การเติมลมยางมากเกินไปจะทำให้ยางสึกหรอตรงกลางมากกว่าปกติ และหากเจอแรงกระแทกแรงๆ อาจจะระเบิดได้ง่ายกว่าลมยางปกติอีกด้วย
ในทางตรงกันข้ามหากเติมลมยางน้อยเกินไป ยางก็จะไม่สามารถรักษาโปรไฟล์เดิมไว้ได้ ยางจะสึกหรอบริเวณไหล่ยางมากกว่าปกติอีกด้วย รวมถึงอาจจะทำให้ยางเสียหายหรือระเบิดได้อีกเช่นกัน
- ลมยางตามคู่มืออาจจะไม่ใช่คำตอบ
โดยพื้นฐานแล้วเราควรจะเติมลมยางตามคู่มือแนะนำที่มีมาให้กับรถ เว้นแต่เรามีการเปลี่ยนยางเป็นอีกรุ่นหรือคนละยี่ห้อจากที่ติดรถมา เราก็จำเป็นจะต้องเติมโดยยึดตามคำแนะนำของผู้ผลิตยาง ซึ่งเบื้องต้นก็จะถือว่าเพียงพอในระดับนึง
ทว่าความจริงไม่เป็นเช่นนั้น การเติมลมยางจะต้องมีการปรับเพิ่มให้มากขึ้นหรือลดน้อยลง เพื่อให้รับกับปัจจัยอื่นๆ ทั้งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการบรรทุกสัมภาระ หรือผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากครับ สุดท้ายแล้วลมยางที่เหมาะสมอาจจะต้องปรับเพิ่มหรือลดแล้วทดลองขับขี่ด้วยตัวเองครับ
สรุป
แล้ว คุณควรจะเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถของคุณ ไม่ควรแข็งหรืออ่อนจนเกินไป จะเติมไนโตรเจนเลยมั้ยขึ้นอยู่กับการใช้งานรถและเงินในกระเป๋าของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะขับขี่ได้ปลอดภัยและประหยัดได้มากขึ้นอีกด้วยครับ
ขอบคุณ อุปกรณ์วัดลมยางจาก Air Supply
https://www.facebook.com/Airsupplytools
https://shopee.co.th/product/307980613/3652056364
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก