Home Honda News รีวิว Wave125i 2023 โมเดลนี้ All New ทั้งคัน พร้อมภารกิจพิชิต 10 ดอย!!

รีวิว Wave125i 2023 โมเดลนี้ All New ทั้งคัน พร้อมภารกิจพิชิต 10 ดอย!!

0

รีวิว Wave125i 2023 โมเดลนี้ All New ทั้งคัน พร้อมภารกิจพิชิต 10 ดอย!!

 

ครั้งนี้ทดสอบกันแบบภารกิจสุดมันส์ กับการ พิชิต 10 ดอย พร้อมกับ รีวิว Wave125i 2023 โมเดลที่เรียกเรียกได้ว่า All New ให้หมดยกคัน เรามาดูกันดีกว่าตัวใหม่จะเป็นยังไง ลุย..

สำหรับทริปนี้เราบินขึ้นไปที่เชียงใหม่ จุดเริ่มต้นของเราอยู่ที่ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า เชียงใหม่ บรีฟเส้นทางการขับขี่ พร้อมกับทำความรู้จัก All new Wave125i กันก่อน แน่นอนว่าเครื่องยนต์ใหม่ชื่อว่า Honda Smart engine พร้อมที่จะไปลุยทั้ง 10 ดอย แต่จะดอยไหนบ้าง ไปติดตามกันได้เลยครับ

Day 1 – ดอยปุย, ดอยสุเทพ, ดอยม่อนแจ่ม

เริ่มต้นออกจากศูนย์ขับขี่ปลอดภัยในช่วงบ่าย ๆ ของวัน ทำความรู้จักรถกันนิดหน่อย  ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งการขับขี่ การใส่เกียร์ ตำแหน่งการเบรก ด้วยที่เป็นรถที่ใช้งานในเมืองแบบอเนกประสงค์ ตัวรถก็เลยออกแบบมาให้นั่งสบาย ๆ แฮนด์บังคับเลี้ยวง่าย ๆ ไม่เมื่อยมาก แต่สำหรับทริปนี้ผมก็คิดว่าก็คงต้องมีเมื่อยบ้างกับเส้นทางระดับ 5-6 ร้อยกิโลเมตร ทว่าผมเองก็คิดว่าเวฟนี่มันก็ของคู่บ้านคู่เมืองอยู่แล้ว ใคร ๆ ก็ขี่ได้สบาย การันตี

เป้าหมายแรกของเราคือดอยปุย ระยะประมาณได้ก็ 35 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นออร์เดิร์ฟวันนี่กันก่อน แล้วไปต่อกันที่ดอยสุเทพ ขี่ย้อนกลับมานิดหน่อยไม่กี่กิโลเมตรประมาณได้ 5 กิโลเมตร เริ่มจับฟีลลิ่งได้แล้ว ตัวรถขี่ง่ายมาก เบา คล่องตัว สบาย ๆ ต่อเนื่องไปที่ดอยต่อไปคือม่อนแจ่ม อีกประมาณ 53 กิโลเมตร

ฟ้าเริ่มมืดที่ม่อนแจ่มพอดี โดยรวมของวันแรกถือว่าได้จับฟีลการขี่ได้ดีเลย เหมาะมากสำหรับการขี่แบบสบาย ๆ ชิลล์ ๆ เพลิน ๆ รวมไปถึงรูปลักษณ์การดีไซน์ตัวรถ ระบบไฟส่องสว่าง LED หน้าจอเรือนไมล์ ไฟบอกเกียร์ ถือว่าออกแบบทำการบ้านมาได้ดีเลย หลังจากนั้นเราก็เข้าพักกันที่ม่อนวิวงาม ฟินกับการอากาศสบาย ๆ สไตล์ภาคเหนือ

Day 2 – ดอยกิ่วลม (ห้วยน้ำดัง), ดอยหยุนไหล, ดอยกิ่วลม (ปางมะผ้า), บ้านจ่าโบ่ และดอยกองมู

เข้าสู่วันที่ 2 ของการพิชิต 10 ดอย เราเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าเพราะว่าวันนี้เราต้องไปให้ได้ถึง 5 ดอย เราออกเดินทางจากม่อนแจ่มไปที่ดอยกิ่วลม (ห้วยน้ำดัง) ระยะทางประมาณ 76 กิโลเมตร วันนี้ผมตั้งใจมาจับฟีลลิ่งช่วงล่าง ล้อ ยาง เบรก กันแบบเต็ม ๆ

เส้นทางเริ่มต้นเป็นเทือกเขา ขึ้นเนิน ลงเนิน มีโค้งเยอะ มีรสชาติมากยิ่งขึ้น เวฟตัวใหม่ มาพร้อมกับระยะยืดยุบตัวโช้คอัพเพิ่มจากเดิมเป็น หน้า 90 มม. หลัง 86 มม. ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น มีการซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น สายขน สายทริป สายบรรทุก ชอบแน่ ๆ แบบนี้

พอถึงดอยกิ่วลมชมวิวกันสักพัก เราก็เดินทางกันต่อจากดอยกิ่วลมมุ่งหน้า ดอยหยุนไหล (ปาย) ระยะทางโดยประมาณ 35 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน บรรยากาศดีมีเอกลักษณ์ ได้แวะสูดอากาศและถ่ายรูปสักเล็กน้อย จากนั้นเดินทางอีก 26 กิโลเมตรสู่ดอยกิ่วลม (ปางมะผ้า) ดอยนี้ได้ใช้ช่วงล่างเยอะจริง ๆ ทั้งจากสภาพถนน โค้งต่าง ๆ  ซึ่งช่วงล่างคันนี้ก็ยังเอาอยู่ พี่ ๆ สื่อร่วมขบวนก็ขี่ใส่กันเต็มที่ไปเลย เดินทางกันต่อที่บ้านจ่าโบอีก 31 กิโลเมตร เส้นทางที่ดูไม่ไกลกันมาก แต่บอกเลยว่ามันคือทางที่คนนั่งรถไม่ค่อยอยากจะมา โค้งเยอะ ขึ้นลงเขา เวียนหัว อาจจะอาเจียนได้ ขนาดขี่มอเตอร์ไซค์ความเร็ว 80-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยังมึน ๆ เมา ๆ โค้งเลย

ที่บ้านจ่าโบเราแวะดื่มกาแฟกันสักเล็กน้อยแก้เมาโค้ง แต่ก็กลัวจะฟ้ามืดกันเสียก่อน ต้องเดินทางกันต่อกับดอยสุดท้ายของวันที่ 2 กับระยะอีก 62 กิโลเมตร ที่จะถึง พระธาตุดอยกองมู แม่ฮ่องสอน ดูจากเส้นทางที่คดเคี้ยวเป็นไส้หมู ไส้เป็ด ไส้ไก่ แล้วต้องรีบออกก่อนเลยเพราะทำความเร็วได้ไม่มาก

ถึงจุดสุดท้ายก็พระอาทิตย์เกือบจะตกดิน ปิดดอยสุดท้ายของวันได้อย่างปลอดภัย วันที่สองนี้ถือว่าเป็นวันที่ได้จับฟีลลิ่งช่วงล่างได้แบบเต็ม ๆ โช้คอัพระยะยุบมากขึ้น ซับแรงได้ขี่ การเข้าโค้งก็ถือว่าใช้ได้ พอเราคุ้นเคยมากขึ้นก็จะขี่ได้สบาย ๆ ล้อแม็กซ์ 17 นิ้วแบบไร้ยางใน นุ่มนุ่มขี่เพลิน ๆ ไร้กังวล เอาเป็นว่า 125 ซีซี ช่วงล่างแบบนี้โอเคเลย ปิดท้ายคืนนี้เรานอนกันที่แม่ฮ่องสอน พักเอาแรงไว้พรุ่งนี้ลุยต่อ

Day 3 – ดอยแม่อูคอ, ดอยอินทนนท์

เข้าสู่วันสุดท้ายของทริปนี้กับการพิชิต อีก 2 ดอย ก็จะครบ 10 ดอย ภายใน 3 วัน วันนี้เริ่มกันตั้งแต่ช่วงเช้าเลยเพราะมีเส้นทางที่ค่อนข้างที่จะเข้มข้นเลยทีเดียว สำหรับวันนี้เรามาจับฟีลลิ่งเครื่องยนต์แบบเน้น ๆ กันหน่อย เพราะเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ เป็น Honda Smart Engine เราลองมาดูกันหน่อยจะแรงขนาดไหน เราได้ออกจากแม่ฮ่องสอน เดินทางมาที่ ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม ระยะทาง 74 กิโลเมตร เราจะเดินทางไปที่จุดชมวิวทุ่งดอกบัวตอง เพื่อชมความเป็นธรรมชาติได้เห็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองสะพรั่งแบบสุดลูกหูลูกตา

ระหว่างทางได้เจอเส้นทางตรงยาว ๆ สักหน่อยได้มีโอกาสลอง Top speed สังเกตจากหน้าเรือนไมล์ ทำได้ถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าแรงเลยนะ ในพิกัด 125 ซีซี การใส่เกียร์ทำได้นิ่มนวล อาจจะต้องมีจังหวะการใส่สักเล็กน้อยบอกเลยว่าเนียนขึ้นกว่าเดิม เครื่องมีเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-Fi ประหยัดน้ำมัน ทั้งยังมีเทคโนโลยี Piston Oil Jet หัวฉีดน้ำมันเครื่องใต้ลูกสูบ กำลังอัดใหม่ที่เยอะขึ้น พร้อมกับ ก้านสูบใหม่ ช่วงชักยาวขึ้นกว่าเดิม ทำให้รอบเครื่องกำลังเครื่องมาได้สเถียรมาเต็มกว่าเดิม อย่างเห็นได้จัด ขึ้นดอย ขึ้นเขา สบายเลยแบบนี้

มาต่อกับเส้นทางวันนี้กับดอยสุดท้ายไฮไลท์ของทริปนี้เลยกับเส้นทางอีก 132 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ ดอยที่สูงที่สุดในสยามประเทศ กับระดับความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเล เส้นทางที่ต้องขึ้นทางชันต่อเนื่อง ทั้งโค้ง การใส่เกียร์ ลากเกียร์ เชนเกียร์ ใช้รอบเครื่องยนต์สูง ๆ ทำได้อย่างสบาย ขึ้นได้แบบชิลล์ ๆเพลิน ๆ ไม่ได้ทำความเร็วส่งขึ้นเนินมาก แต่ก็สบายไปได้ เฟืองเกียร์ทดรอบใหม่ต้นมาได้เต็มกว่าเดิม ปรับเฟืองเกียร์สุดท้ายให้ไหลกว่าเดิม ทำการบ้านมาดีเลยทีเดียวสำหรับตรงนี้ เส้นทางที่สามารถทดสอบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และแล้วเราก็มาถึงสุดหมายปลายทางได้อย่างสมบูรณ์แบบกับอุณหภูมิบนยอดดอย 13 องศาเซลเซียส เย็นจับใจ และแน่นอน พระเอกของงานนี้คือ All New Wave125i ที่พาเราพิชิต 10 ยอดดอยตามที่ตั้งใจไว้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ เส้นทางการเดินทางต่าง ๆ อยู่ในสภาพแวดล้อมใช้งานจริง คันเร่งในการใช้งานออกทริป ขึ้นเนิน ขึ้นดอย เต็มข้อ บิดหมดปลอกเกือบจะตลอดทาง เส้นทางกว่าหกร้อยโล หลายพันโค้ง เกือบจะครึ่งหมื่นได้ ก็สามารถไปได้แบบไม่มีหวั่น “เชื่อมั่นว่าทำได้จริง” ความสำเร็จที่คู่คนไทยมา 25 ปี

สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ 125 ซีซี ใช้งานแบบอเนกประสงค์ เครื่องยนต์ ทนทาน ใช้งานได้แบบสมบุกสมบัน ก็ฝาก All New Wave125i โมเดล 2023 ไว้ด้วย เพราะเปลี่ยนมาใหม่หมด จัดเต็มจริงรอบนี้ ขี่ใช้งานได้แบบสบาย ๆ จะแม่บ้าน พ่อบ้าน ใช้ขี่ไปเรียน รับส่งแฟน หรือ แอบซิ่งก็ไม่มีผิดหวัง บอกเลยว่ายังไงก็ต้องเวฟ..!!

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก



Exit mobile version