รีวิว New CBR500R 2024 อัพดีกรีสปอร์ต น่าขี่ยิ่งกว่าเดิม!!
ครั้งนี้เราได้มีโอกาส รีวิว New CBR500R 2024 โมเดลใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายในบ้านเรา ถึงแม้จะเป็นโมเดลที่มีอยู่แล้ว แต่กลับมารอบนี้ถือว่า Honda ทำการบ้านเรื่องรูปลักษณ์มาได้เป็นอย่างดี มีความหล่อเหลากว่าเดิมหลายเท่าตัว สำหรับครั้งนี้เรามาทดสอบความสปอร์ตกันถึงที่สนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต จ.เพชรบุรี เอาให้รู้กันไปเลยว่าคันนี้มีอะไรดี
คันนี้มีประวัติ
เล่าให้ฟังกันก่อนเลย เดิมที CBR500R รหัสนี้ มีมาตั้งแต่ปี 2013 ก็เรียกได้ว่ามีความเป็นมายาวนานนับ 10 ปีที่มีจำหน่ายในศูนย์ Honda Bigwing รูปลักษณ์ หน้าตาก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาตามสมัย ทั้งวัสดุ ลวดลาย เส้นสาย ก็ถูกเปลี่ยนไป รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ถูกใส่เพิ่มเติมเข้าไปหรือปรับปรุงแก้ไข ล้วนแล้วแต่ทำให้ตัวรถตอบสนองผู้ขับขี่ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทดสอบแบบสายฟ้าแลบ
เปิดตัววันแรกในงาน Motor Expo 2023 วันรุ่งขึ้นผมก็ต้องแพ็คเรซซิ่งสูทเข้ากระเป๋าดิ่งตรงเข้าสนามแข่งแก่งกะจานเซอร์กิตเลย เพื่อที่จะให้พร้อมทดสอบในงาน Honda Bigbike Triple Thrills ที่รวบรวมโมเดลใหม่ทุกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมราคาในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเพื่อที่จะให้สื่อมวลชนในประเทศไทยเข้าร่วมทดสอบอย่างเป็นทางการที่แรกในโลกก่อนใคร เรียกได้ว่า Thai Honda จัดให้แบบไม่มีเสียชื่ออยู่แล้ว
แฟริ่งใหม่ทั้งคัน
ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หล่อขึ้นเป็นกอง เพราะมีการดีไซน์ปรับเปลี่ยนแฟริ่งใหม่ โดยเฉพาะด้านหน้าที่มีการเปลี่ยนแฟริ่งเป็นไฟหน้าคู่พร้อมกับดีไซน์ดับเบิ้ลแฟริ่งให้มี Air duct หรือท่อดักลมไอดีมาให้พร้อมกับปีกหรือวิงก์เล็ต ซึ่งใช้งานได้จริง เพิ่มความนิ่งในความเร็วสูง ๆ ได้ดี และมีดีไซน์ลวดลายรอบคันให้มีเส้นสายความสปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิม นี่ละถึงเป็นสาเหตุว่าทำไมทุก ๆ คนถึงพูดเป็นเสียงเดียวกันหลังจากที่ได้เห็นคันนี้ว่า หล่อขึ้นเป็นกอง
เครื่องยนต์พื้นฐาน 2 สูบ
ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง พิกัด 471 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 47 แรงม้า และ แรงบิด 43 นิวตันเมตร ชุดเกียร์ 6 สปีด มีระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ เพิ่มความสมบูรณ์แบบในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีส่วนที่พัฒนามาให้นั้นคือ กล่อง ECU ที่มีปรับจูนแม็ปปิ้งมาให้ใหม่ เพื่อให้ตอบสนองผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น
ช่วงล่าง แอบซิ่งได้
โช้คอัพหน้าเป็นแบบหัวกลับ Showa SFF-BP มาพร้อมขนาดแกน 41 ม.ม. โช้คหลังเดี่ยวพร้อมกระเดื่องทดแรง Pro-link สามารถปรับค่าแข็งอ่อนของสปริงได้ 5 ระดับ ในส่วนของระบบเบรกก็จัดมาให้เต็มระบบ ด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลดิสก์เบรก ด้านหลังก็เป็นดิสก์เบรกเดี่ยว สำหรับตัวล้อและยางเส้นผ่าศูนย์กลาง 17 นิ้วให้โปรไฟล์ยางแบบใช้งานขับขี่บนท้องถนนทั่ว ๆ ไปมาให้
เทคโนโลยี
เริ่มจากเทคโนโลยีความปลอดภัยกันก่อนเลย อย่าง HSTC หรือ ที่เราเข้าใจกันแบบง่าย ๆ นั้นก็คือระบบแทร็กชั่นคอนโทรล ป้องกันการล้อฟรี หรือการสูญเสียการยึดเกาะนั่นเอง ช่วยรักษาสมดุลของตัวรถ ทำให้เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นที่สำคัญถ้าอยากมันส์ ก็สามารถเปิดปิดได้ด้วย ยังมีระบบเบรก ABS แบบ 2 ชาแนลซึ่งเป็นของที่สำคัญและขาดไปไม่ได้เลยเวลาขับขี่บนท้องถนน และระบบ ESS ช่วยกระพริบไฟฉุกเฉินเวลาเบรกกะทันหันช่วยแจ้งเตือนคันข้างหลัง
ในส่วนของความสะดวกสบายนั้นนอกจากหน้าจอเรือนไมล์ที่ให้มาแบบ TFT จอสี ขนาด 5 นิ้ว ที่บอกสถานะทุกอย่างของตัวรถไว้อยู่แล้ว ยังมีในส่วนของ Honda Roadsync ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนติดรถมาให้จากโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการโทรออกรับสาย ระบบนำทาง ฟังเพลง ส่งข้อความ พยากรณ์อากาศ ผู้ขับขี่สามารถใช้งานเลือกฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้ผ่าน ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางใหม่ รองรับทั้งระบบแอนดรอยด์ และ iOS
ฟีลลิ่งการขับขี่ในสนาม
มุมมองแรกเลยจากตัวผมเอง ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรก เพราะครั้งแรกก็ว้าวกว่านี้กับการเปิดตัวที่งาน EICMA 2023 สะกดสายตาคนทั้งโลกแล้ว สำหรับการกลับมาของ CBR500R 2024 แต่ก็รู้สึกว้าวกับดีไซน์นี้อยู่ดี เพราะว่าสัมผัสได้ถึงความบึกขึ้น มีวิงเล็ตเหมือนกับรุ่นพี่ระดับซูเปอร์ไบค์ อย่าง CBR1000RR-R ถือว่าได้ฟีลสปอร์ตที่ชัดเจนมากขึ้นอีกขั้น
ท่านั่งการขับขี่
สำหรับการขับขี่ในสไตล์เรซซิ่ง CBR500R ให้อารมณ์ท่านั่งกึ่งสปอร์ต ไม่ได้ก้มตัวจนมากเกินไป สืบเนื่องมาจากแฮนด์จับโช้คมีการยกขึ้นมาสูงกว่าระดับแผงคอนิดหน่อยและตำแหน่งการวางเท้าที่ไม่ชันเข่ามากเท่าไร โดยรวมท่านั่งการขับขี่จะตอบโจทย์ให้สำหรับการใช้งานในเมือง แต่คราวนี้เอามาขี่ในสนามก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ สามารถขับขี่ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะแบนโค้ง หรือหมอบทางตรง ก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรเท่าไรนัก
เครื่องยนต์ปรับมาใหม่
เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง มาพร้อมระบบแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ ตัวนี้ปรับแม็พการจ่ายน้ำมันมาให้ใหม่ ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองต่อคันเร่งได้ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับการขับขี่ในสนาม เครื่องยนต์ตัวนี้มีอัตราเร่งที่ดี เกียร์ชิด ขี่สนุก ระบบสลิปเปอร์คลัตช์ตอบสนองได้ดี ช่วงที่เชนเกียร์ก่อนเช้าโค้ง ทำให้ตัวรถไม่มีอาการ ควบคุมรถได้ง่ายยิ่งขึ้น ถือว่าได้ฟีลสปอร์ตที่ชัดเจน
ช่วงล่าง
ท้าทายช่วงล่างในแก่งกระจาน ด้วยสนามที่เป็นแอ่งกระทะ ขึ้นเนิน โค้งไฮสปีด โค้งเอสต่อเนื่อง ช่วงล่างที่ดีจริงเป็นสิ่งสำคัญมาก รอบแรกผมได้ลองลงไปแบบรถเดิม ๆ รู้ได้ว่าเป็นค่าโรงงาน จึงให้ทางทีมงานปรับพรีโหลดที่โช้คหลังเพิ่มขึ้นอีก 3 ระดับ ให้มีความแข็งมากขึ้น ลดอาการย้วยลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สามารถเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ๆ ได้ดีขึ้น ระบบเบรกหน้าไว้ใจได้อยู่แล้ว เบรกหลังไว้ชะลอ ช่วงล่างก็สามารถขับขี่ในสนามได้เลย แต่ก็มีอีกจุดที่ต้องบอก คือพักเท้าต่ำอาจจะขูดหรืองัดกับพื้นจนเกิดอันตรายได้หากขับขี่ในสนาม จึงควรปรับตำแหน่ง หรือเปลี่ยนชุดเกียร์โยงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สรุป
คันนี้เป็นบิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะก้าวข้ามจากรถที่ซีซีน้อย ๆ แล้วเพิ่มขีดจำกัดตัวเอง มีดีไซน์ใหม่ล่าสุดของปี 2024 สมรรถนะดี เน้นขี่ง่าย ไม่จุกจิก มีความคล่องตัว เป็นมิตรต่อมือใหม่ ทั้งยังจับต้องได้ง่าย ด้วยการเปิดราคาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการที่ 222,800 บาท ใครไม่แล้วใจก็มาชมคันจริงได้ที่ Honda Bigwing ทุกสาขาได้เลยนะครับ
อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก