Home Honda News รีวิว Giorno+ 2023 โมเดิร์นคลาสสิกที่แอบแรงไม่เบา

รีวิว Giorno+ 2023 โมเดิร์นคลาสสิกที่แอบแรงไม่เบา

0

รีวิว Giorno+ 2023 โมเดิร์นคลาสสิกที่แอบแรงไม่เบา

เรียกว่าร้อนแรงจริง ๆ สำหรับโมเดิร์นสกู๊ตเตอร์คลาสสิกสกู๊ตเตอร์คันล่าสุดของ Honda แน่นอนว่าเราจึงต้องรีบทำการ รีวิว Giorno+ 2023 อย่างรวดเร็ว ให้รู้กันไปเลยว่ามันมีอะไรดี มีอะไรให้ใช้ ตอบโจทย์แค่ไหน ตอบโจทย์ใครกันบ้าง ไปดูกันเลย 

สวยงามไร้กาลเวลา

เริ่มต้นกันด้วยการดีไซน์ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนจะต้องถูกใจในความสวยงามของเจ้าจีออร์โน่พลัสคันนี้ เจ้านี่มาในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ที่เป็นการผสมผสานกันรูปทรงและเส้นสายโค้งมนสวยงามแบบคลาสสิก มีคลาส ดูน่าขับขี่ใช้งาน ขณะเดียวกันก็มีการใส่ความทันสมัยเข้าไปในส่วนของเครื่องยนต์และเทคโนโลยีลูกเล่นการใช้งานให้ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน

ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ทรงกลมมนเสริมด้วยคิ้วสีโครเมียมเพิ่มมิติให้ดูลงตัว พร้อมเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ในตัว ไฟเลี้ยวแบบแยกไว้ที่แฟริ่งด้านหน้าส่วนล่างใกล้ซุ้มล้อหน้าเปรียบ มองแล้วคล้ายแววตา ดูแล้วมีมิติลงตัว ไฟท้าย LED ขนาดใหญ่ ดีไซน์รับกันกับไฟเลี้ยวท้ายที่ดูคล้าย ๆ กับแววตาที่กำลังจ้องมองมาเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าระบบไฟส่องสว่างมองเห็นได้ชัดเจนปลอดภัย ขณะที่หน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอดิจิทัล LCD แสดงผลข้อมูลจำเป็นครบถ้วน

แรงด้วยเทคโนโลยี eSP+

ต่อกันที่เรื่องของขุมพลังที่ถือเป็นจุดเด่นอีกจุดที่สำคัญสำหรับโมเดลนี้ ด้วย เครื่องยนต์ eSP+ สูบเดียว 4 วาล์ว 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งมีดีที่ระบบวาล์ว 4 วาล์วจ่ายเชื้อเพลิงและระบายไอเสียได้ดีขึ้น บวกกับหัวฉีดใต้ลูกสูบหรือ Piston Oil Jet ช่วยหล่อลื่นและระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ที่ทั้งแรงและทนทาน โดยจะมีระบบเกียร์อัตโนมัติส่งกำลังผ่านระบบสายพาน CVT ตามแบบของสกู๊ตเตอร์ทั่วไป และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากถังน้ำมันขนาด 5.4 ลิตรที่มีช่องเติมอยู่ด้านหน้าไม่จำเป็นต้องเปิดเบาะเติม ช่วยให้เติมน้ำมันได้สะดวกยิ่งขึ้น

ช่วงล่างลงตัวได้มาตรฐาน

สำหรับเรื่องของแชสซี ตัวรถใช้เฟรม eSAF ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยการปั๊มขึ้นรูปแบบเดียวกับรถยนต์ ซึ่งเป็นพัฒนาขึ้นมาให้มีน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงทนทาน และให้ความคล่องตัวเวลาขับขี่ ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นโช้คเทเลสโคปิก ด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวแบบยูนิตสวิง 

ขณะที่ระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้า ส่วนด้านหลังจะเป็นดรัมเบรก โดยจะมาพร้อมระบบเบรก ABS ที่ด้านหน้า (เฉพาะรุ่น ABS) ปลอดภัยยิ่งขึ้น และสำหรับรุ่นสแตนดาร์ดจะมาพร้อมระบบเบรก CBS หรือระบบเบรกแบบกระจายแรงเบรก ซึ่งก็ช่วยในความปลอดภัยได้อีกระดับ สุดท้ายในเรื่องของช่วงล่างจะเป็นเรื่องของล้อและยางทางค่ายจะให้ล้อขนาด 12 นิ้วเท่ากันทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบที่ไม่ต้องใช้ยางในและยางจะมีขนาดดังนี้ 100/90-12 และ 110/90-12 หน้าหลังตามลำดับ

ฟีเจอร์ครบครันทันสมัย

ในส่วนของฟีเจอร์ที่จะมาตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบของสกู๊ตเตอร์คันนี้ก็ค่อนข้างครบครับทันสมัยเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระบบกุญแจสมาร์ทคีย์ที่ช่วยให้ไม่ต้องเสียบกุญแจเพียงพกไว้ก็สามารถเปิดสวิตช์รถเพื่อปลดล็อครถ สตาร์ท เปิดฝาถังน้ำมัน และเปิดเบาะได้โดยสะดวก ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหน้าพร้อมช่องจ่ายไฟแบบ USB ตะขอแขวนสัมภาระด้านหน้าแบบพับเก็บได้ และที่สำคัญคือช่องเก็บของใต้เบาะขนาด 30 ลิตรจุใจ ใส่สัมภาระได้มากมายและสะดวกจริง ๆ ครับ 

ฟีลลิ่งการขับขี่ 

ด้วยความที่ Giorno+ เป็นซิตี้สกู๊ตเตอร์ ท่าทางการขับขี่จึงดูเรียบร้อยเฟรนด์ลี่กับยูสเซอร์เกือบจะทุกเพศทุกวัย ขึ้นรถ ลงรถ ง่ายมาก ๆ ถ้าพูดถึงท่านั่งขณะขับขี่ คันนี้ก็ออกแบบมาได้ตอบโจทย์ เบาะใหญ่สบายนั่งได้เต็มก้น ที่วางเท้ากว้าง ไม่ชันเข่ามากจนเกินไป แต่ถ้าคนตัวสูงหรือขายาวก็อาจจะชันบ้างเล็กน้อยลองเขยิบตำแหน่งนั่งดูจะช่วยได้ ส่วนตำแหน่งแฮนด์ไม่กว้างมาก ช่วงที่มุดเปลี่ยนเลนส์ทำได้ไม่ลำบากติดขัดอะไร แต่ถ้าช่วงที่ต้องซอกแซกในเมืองมุดไปมาช่วงรถติด ๆ อาจจะต้องทำความคุ้นชินสักหน่อย รับรองขี่ง่ายขึ้นกว่าเดิม 

 

ส่วนตัวมองภาพรวมว่าช่วงรถ ความยาว ความกว้าง สามารถใช้งานในเมืองได้ดีเลยทีเดียว บังคับเลี้ยวง่าย ไม่เหนื่อย และที่สำคัญด้วยรูปทรงและรูปร่างของมันยังเป็นของสดใหม่ในสายตาคนรอบข้างมากมาย ของใหม่ ขี่ไปไหนใคร ๆ ก็มอง 

ขี่สนุกติดมือ

คุ้นมืออยู่ สำหรับเจ้าเครื่องตัวนี้เพราะปัจจุบันตัวผมเองเป็นเจ้าของอยู่แล้ว เครื่องรหัส eSP+ 1 สูบ 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้งานในเมืองเรียกได้ว่าสบายแบบหายห่วง จะร้อนแค่ไหนก็เอาอยู่ อัตราเร่ง 0 – 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับผมถือว่าโอเคเลย เร่งแซง ออกตัวใช้งานในเมืองได้ดี ความเร็วปลายทำได้ก็ 105 – 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่อาจจะต้องใช้ระยะหน่อย แต่นี่คือเครื่องเดิม ๆ ไม่ได้มีการปรับแต่งอะไร ถ้าไปเห็นคลิปพวกที่วิ่งกัน 140 – 160 นั้นเขาไปทำกันมาแล้ว ปรับองศา ขยายลิ้นปีกผีเสื้อ ปรับการสั่งจ่ายน้ำมัน ทำให้ตัวรถวิ่งได้ดีขึ้น ในพื้นฐานเครื่องเดิม ดังนั้นเครื่องตัวนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ แรงสั่งได้ แต่ถ้า เดิม ๆ สำหรับผมแล้ว ก็มีกำลังที่ดี ทั้งยังมีความประหยัด ใครที่ซื่อมาเน้นใช้งาน ตอบโจทย์เลยตรงนี้

 

ช่วงล่างขี่ง่ายเบรกก็ดี 

ช่วงล่างมีหน้ายางขนาดค่อนข้างใหญ่ ทำให้ขี่ใช้งานได้ดี ส่วนนี้คิดว่าจับฟีลลิ่งได้แบบพร้อมกันกับตัวโช้คอัพ เพราะมีส่วนประกอบหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ผู้ขับขี่ ขี่ได้ง่ายมากขึ้น หน้ายางที่กว้างทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น พร้อมล้อ 12 นิ้วหน้าหลัง ความเร็วสูง ๆ หรือช่วงที่ต้องเข้าโค้ง ทำได้ดีเลย ขณะที่โช้คเองก็ซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี 

ส่วนของเบรกตัวที่เรามาทดสอบเป็น ABS ที่ล้อหน้า ตรงนี้ก็เสริมความมั่นใจมากขึ้นในการเบรก กันการล้อล็อก แต่ถ้าเอาเนียนได้ระยะเบรกที่ดี ต้องเบรกหน้าหลังพร้อมกันจะรู้สึกได้ว่าเบรกได้ระยะสั้นมากขึ้น ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม ภาพรวมช่วงล่างสำหรับคันนี้ คือให้ความนุ่มนวลและความปลอดภัยมาก่อนเลยในส่วนนี้ 

สรุป

สำหรับการรีวิว Giorno+ โมเดิร์นคลาสสิกสกู๊ตเตอร์คันนี้ ดีไซน์สวยงามล้ำสมัย เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยจริง ๆ ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ ทั้งยังใส่ของได้เยอะ สมรรถนะและความประหยัดที่ได้จากเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ก็เรียกว่าโอเคมาก ๆ  ช่วงล่างที่มีหน้ายางกว้างและเบรก ABS ถือว่ามั่นใจและปลอดภัยจริง ๆ  ตัวรถยังมีกุญแจคีย์เลสมาให้นับว่าสะดวกมาก ๆ และเมื่อบวกกับฟีลลิ่งที่กระชับ ขับขี่ได้ดี แถมขี่ง่ายอีกด้วย 

สุดท้ายนี้เปิดตัวมาพร้อมราคาแนะนำในรุ่น ABS ราคา 66,900 บาท และรุ่น STD ราคา 61,900 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย ทั้งยังคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย อย่างไรก็ดีสิบนิ้วที่พิมพ์ให้ท่าอ่านอาจจะไม่เท่าตาเห็น ลองไปชมตัวจริงได้ที่ Honda Wing Center ทุกสาขาทั่วไทย ได้เลย มีหลายเฉดสีให้เลือก รับรองว่าถูกใจแน่นอน   

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version