Home Honda News รีวิว CBR600RR 2021 ถนนก็ได้ สนามก็ดี 

รีวิว CBR600RR 2021 ถนนก็ได้ สนามก็ดี 

0
รีวิว CBR600RR 2021 ถนนก็ได้ สนามก็ดี 

รีวิว CBR600RR 2021 ถนนก็ได้ สนามก็ดี 

หลังจากก่อนหน้านี้เราได้ลองทดสอบพาเจ้าซูเปอร์สปอร์ตคันล่าสุดของฮอนด้าไปทดลองขับขี่ในสนามแบบเต็มรูปแบบกันไปแล้ว มาคราวนี้ถึงคิวของการทดสอบใช้งานในเมืองหรือบนท้องถนนจริงๆ กันบ้าง จะได้รู้ว่าเอามาขี่ถนนมันจะเป็นยังไง ร้อนไหม มุดไหวเปล่า ตอบโจทย์บนท้องถนนได้หรือเปล่า มาดูกันเลยครับ 

รีวิว CBR600RR 2021 ในบทความนี้เราจะไม่ลงรายละเอียดลึกเท่ากับฉบับรีวิวในสนามนะครับ เพราะเราได้เขียนไว้ละเอียดแล้ว อ่านบททดสอบสนามที่นี่ เราจะเน้นในเรื่องของฟีลลิ่งและสมรรถนะเวลาขับขี่บนท้องถนนเป็นหลักนะครับ

 

ฟีลลิ่งดีขี่ถนนได้

พูดถึงท่านั่งการขับขี่ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี 4 สูบเรียงคันนี้บนถนนหลวง ต้องบอกเลยว่าได้ฟีลที่ประทับใจมาก ๆ ครับด้วยการออกแบบท่านั่ง และระยะของแฮนด์บาร์ที่ไม่กว้างจนเกินไป ทำให้ซอกแซกและการบังคับเลี้ยวทำได้ง่ายทั้งในช่วงของความเร็วต่ำ ไปจนถึงความเร็วสูงๆ ในส่วนของตำแหน่งวางเท้าไม่ได้ ชันเข่า มากเกินไป การเข้าเกียร์การเบรกอยู่ในระยะที่ดี ความกว้างของถังน้ำมันก็ไม่กว้างจนเกินไปทรงสวยเวลาหนีบถังหน้าขากระชับมั่นคง อย่างตัวผู้ทดสอบเองนั้น ได้มีความสูง 171 เซนติเมตร ถือว่ามั่นใจทั้งการจอดและการออกตัว โดยรวมแล้วรถ Racing Replica คันนี้ออกแบบมาตอบโจทย์ไม่ใช่แค่ในสนามเท่านั้น ยังเหมาะสมกับการขับขี่บนท้องถนนอีกด้วย 

 

ช่วงล่างมาตรฐานเจแปน 

เริ่มที่โช้คอัพ Showa ด้านหน้ากันก่อนเลย ที่ให้มาเป็นแบบ Up-Side Down สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งหมด 3 ค่า ทั้งความหนืด ความแข็งอ่อน แรงกด ปรับได้ตามความเหมาะสม และในส่วนของโช้คหลังที่มีกระเดื่อง Pro-Link เข้ามาช่วยเพิ่มสมรรถนะเข้าไปอีก 

โดยส่วนตัวโช้คอัพติดมาจากโรงงานระดับนี้ถือว่าเพียงพอแล้ว ถ้ามาเอาใช้บนถนนสามารถปรับตั้งค่าให้เข้ากับที่เราชอบเลย ซึ่งจากที่ทดสอบมาผมว่าก็เป็นที่น่าพอใจเพราะการปรับค่าให้เหมาะสมช่วยเพิ่มความนุ่มนวล ความกระชับ เก็บเส้นรอยต่อถนน คอสะพาน ได้นุ่มเนียน ถือว่าทำได้ถูกใจผมเลยละครับ 

จบจากเรื่องระบบกันสะเทือนไปก็ต้องมาพูดถึงในส่วนของฟีลลิ่งการใช้เบรก ระบบเบรกในส่วนล่างนั้นเป็นเกรดสนามแข่ง จานเบรกคู่อัพขนาดจานใหญ่ 320 มิลลิเมตร มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์จาก Tokico ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกและคาลิเปอร์เบรกจาก Nissin ที่บอกเลยว่าเหลือเฟือ!! 

จากการทดสอบสมรรถนะในการเบรก ไม่ต้องกำแน่น กำแรงขนาดนั้น เพราะตัวใหม่ มีเทคโนโลยี IMU เข้ามาช่วยให้เบรกได้ดีกว่าเดิม ในระหว่างที่เราถ่ายทำรีวิวและทดสอบมีฝนตกลงมา เราก็ไม่กลัวและกล้าที่จะใช้เบรกในช่วงฝนตก หรือพื้นลื่น ๆ ได้มากขึ้น มั่นใจทุกครั้งที่ใช้เบรก ซึ่งตรงนี้ที่เป็นส่วนนึงที่บ่งบอกว่าคันนี้ละที่ใช้บนถนนได้จริงและขี่ได้ไม่ยากอย่างที่ใครหลายคนอาจจะกังวล

 

เครื่องยนต์สายพันธ์ุซิ่ง

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงเสียงหวานพิกัด 600 ซีซีเครื่องใหม่ที่ทางโรงงานเคลมว่า เร็ว แรงกว่าเดิม 2.2% แม้ว่าดูจะไม่มาก แต่ทางผมได้ได้มีโอกาสทดสอบในสนามแข่งมาแล้วต้องยอมรับเรื่องความแรงเลยละ แม้แต่ทางพี่ฟิล์ม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักแข่ง Moto2 และมุก มุกลดา สารพืช นักแข่งระดับเอเชียเองยังคอนเฟิร์มเรื่องความแรงมาเลยว่า แรงกว่าตัวเก่าแน่นอน และทางทีมแข่ง Honda Racing Thailand เองก็ยังใช้เครื่องยนต์ตัวนี้ในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย และ ลงแข่งในรายการ เอเชียอย่าง ARRC อีกด้วย 

แต่ในครั้งนี้ที่ทางเรามาเอาทดสอบใช้งานในเมืองคงไม่ต้องพูดถึงความเร็วแรงมากมายนัก เพราะนักแข่งเขาการันตีกันไปหมดแล้ว ดังนั้นทางเราเองจะมาการันตีว่า แม้ว่าเจ้า 600 คันนี้จะมี DNA สายพันธ์ุซิ่งมาเต็มตัว แต่มันก็เป็นรถที่ “ขี่ง่ายมาก” ถ้าเอามาใช้ในเมือง ตัวรถมี Riding Mode ให้ใช้ให้ปรับเองตามใจ อยากแรง อยากนุ่มนวล อยากชิลล์ หรือตามสภาพอากาศ ปรับได้ตามใจชอบเลย 

คันเร่งไฟฟ้าเบามือตอบสนองได้ดี เกียร์ 1 – 2 ยาวๆ ใช้งานได้ถูกใจ เกียร์ 1 ลากแบบ เรดไลน์ก็ 130+ กม./ชม. ยาวจริงๆ เสียงเครื่องยนต์หวาน รอบสูงๆ 13,500-14,000 รอบ/นาที เสียงไพเราะถูกใจผมเป็นอย่างมาก 

และในคราวนี้มีการทดสอบโหมด Rain กันด้วยนะในครั้งนี้ เพราะช่วงนี้ฝนตกหนัก โหมดการขับขี่ช่วยไว้ได้เยอะ ระบบ IMU ทำงานฉับไวคู่กับระบบ HSTC แทร็คชั่นคอนโทรล ทำให้เวลาล้อหมุนไม่เท่ากัน เกิดอาการไถล เสียอาการ ก็จะคอยคุมกำลังของรถ ทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

ฟันธง

สรุปตรงนี้เลยแล้วกันว่าทางเราเองก็พูดได้เลยว่า All New Honda CBR600RR รถซูเปอร์สปอร์ต Racing Replica คันนี้เป็นรถที่ขับขี่คอลโทรลง่าย ขี่สบาย ๆ แถมแรงไม่แพ้สปอร์ตไบค์ตัวอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ทั้งท่อไอเสียออกท้าย ปีกหรือWinglet ดูแล้วได้อารมณ์รถแข่ง แถมยังหล่อเป็นที่น่าจับตามองในถนนอย่างแน่นอน ตินิดเดียวตรงที่ไม่มีสีสันอื่นให้เลือก คนที่ไม่ชอบสีไตรคัลเลอร์อาจจะต้องไปทำสีเอง 

ส่วนสนนราคาคันนี้เปิดอยู่ที่ 549,000 บาท ผมบอกเลยนะว่าคุ้มค่ากับออปชันที่ให้มานะ ผมกล้ายืนยันได้เลยว่าถ้าใครได้ลองใช้งานในเมือง ต้องถูกใจ ถูกจริต ติดอกติดใจติดมืออย่างแน่นอน คอนเฟิร์มครับ!!

อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version