Home Yamaha News รีวิว Aerox 2021 ยัดเทคโนโลยี Y-Connect พร้อม ABS โรงงาน

รีวิว Aerox 2021 ยัดเทคโนโลยี Y-Connect พร้อม ABS โรงงาน

0

รีวิว Aerox 2021 ยัดเทคโนโลยี Y-Connect พร้อม ABS โรงงาน

ครั้งนี้เรามา รีวิว All-New Yamaha Aerox 2021 สปอร์ตสกู๊ตเตอร์ตัวใหม่ล่าสุดจากทางค่ายยามาฮ่าที่มีความคล่องตัว ขี่ง่าย และที่สำคัญยังให้ฟีลลิ่งเครื่องยนต์ที่แรง ใช้งานในเมืองได้อย่างสบายๆ และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีในรถพิกัดนี้มาก่อน ซึ่งต้องเกริ่นกันสั้นๆ ตรงนี้ก่อนเลยว่า เป็นรถที่น่าใช้เป็นอย่างมาก

สำหรับโมเดลนี้เรียกว่าอะไรๆ ก็ใหม่ไปหมด โดยทางยามาฮ่าเคลมมาว่าในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ เพราะโมเดลนี้ มีการเปลี่ยนทั้งแฟริ่ง เฟรมตัวถัง ไฟหน้า ไฟท้าย บล็อกเครื่องยนต์ ร่วมไปถึงใส่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเข้ามาให้ในรถพิกัดนี้ด้วย ถือเป็นการปรับเปลี่ยนที่ทำให้ลูกค้าที่สนใจ ตัดสินใจซื้อรถได้ไม่ยากเลย ถึงตรงนี้เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า สำหรับรุ่นใหม่ 2 เวอร์ชั่นนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง แล้วฟีลลิ่งจะเป็นยังไง อ่านต่อกันได้เลย

 

ภายนอกใหม่

มาพูดถึงแฟริ่งภายนอกที่เปลี่ยนใหม่ที่ให้อารมณ์ถึงความสปอร์ต ดูเท่ ล้ำสมัยตามแบบฉบับรถ Supersport สายพันธ์ R-Series DNA รวมไปถึงในช่วงแฟริ่งด้านหน้าที่มีการปรับเส้นสายให้ดูเรียว เพรียวบางมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ไฟหน้าเองก็ดีไซน์ใหม่และเปลี่ยนเป็นแบบ Full LED ให้ความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมเสริมความหล่อใส่ไฟเดย์ไทม์รันนิงไลท์ หรือที่ชอบเรียกกันสั้นๆ ว่าเดย์ไลท์นั่นแล หล่อทั้งกลางวันและกลางคืน ในส่วนของไฟท้ายเองก็มีการปรับเปลี่ยนให้ดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นและเป็น LED ด้วยเช่นกัน

 

เรือนไมล์ใหม่

มีเรือนไมล์ดีไซน์ใหม่แบบดิจิทัล LCD ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น สามารถแสดงสถานะต่างๆ ของตัวรถและเครื่องยนต์อย่างครบครันและสามารถควบคุมผ่านทางประกับด้านซ้ายได้สะดวกอีกด้วย รวมไปถึงเรือนไมล์ตัวใหม่นี้ยังเชื่อมต่อกับ Yamaha Y-Connect และแสดงผลเป็นสัญลักษณ์เตือนสถานะมือถือ ข้อความต่างๆ  ได้อีกด้วย

 

เบาะใหม่นั่งสบายยันคนซ้อน


ตัวเบาะใหม่นี้มีการดีไซน์ในส่วนของคนซ้อนให้นั่งสบายยิ่งขึ้น ออกแบบตัวรูปทรงเบาะที่จะช่วยกันลื่นไถลของผู้ซ้อนทำให้เวลาขับขี่และโดยสาร นั่งได้กระชับทั้งคนขับและคนซ้อนมากขึ้น ลงตัวตลอดช่วงหน้าและหลัง ทำให้เวลามองแล้วดูสปอร์ตน่าขี่กว่าเดิม

 

เฟรมโครงรถใหม่

ปรับเปลี่ยนโครงรถแบบแบ็คโบน รออกแบบดีไซน์ฝห้ใช้ท่อเหล็กกล้าขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60.5 มิลลิเมตรและท่อรองขนาด 45 มิลลิเมตร พร้อมกับเสริมโครงคานขนาด 16 มิลลิเมตร ปรับเปลี่ยนจุดยึดแท่นเครื่องยนต์ไปอยู่ทางด้านใต้เครื่องยนต์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการขับขี่ให้คล่องตัวมากขึ้น มั่นใจมากยิ่งขึ้น และยังมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิมอีกด้วย

 

ช่วงล่างเดิม ปรับปรุงเพิ่มเล็กน้อย

ในส่วนของตัวโช้คอัพยังคงมีพื้นฐาน ความสูง ระยะยุบ ระดับน้ำมันโช้คที่เหมือนกับตัวเดิมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่จะมีเพียงอย่างเดียวที่เพิ่มขึ้นก็คือ ค่าความแข็งของสปริงที่เพิ่มขึ้นในเวอร์ชั่น STD ให้ใช้งานได้ดีรองรับทุกสภาวะถนน และในทุกช่วงของความเร็ว ขับขี่ได้สนุกมากขึ้น

มาพูดถึงในส่วนของระบบเบรกและล้อกันบ้าง หลักๆ ยังคงมีพื้นฐานที่เหมือนกับตัวก่อนหน้านี้ เบรกหน้าให้มาเป็นแบบดิสก์เบรก และด้านหลังที่เป็นแบบดรัมเบรก แต่ก็จะมีสีสันของวงล้อที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้ดูสปอร์ตหรูหรามากขึ้น ในส่วนของตัวขนาดล้อยังคงเป็นแบบเดิมที่ให้ขนาดยางหน้า 120/70-14 และยางหลังขนาด 140/70-14 ดูใหญ่ดูเต็ม ซึ่งก็เพียงพอการขับขี่อยู่แล้ว มั่นใจหายห่วงทุกย่านความเร็ว

 

เครื่อง Blue Core บล็อกใหม่

เครื่องยนต์ตัวใหม่เทคโนโลยี Blue Core 155 ซีซี 4 จังหวะ SOHC มาพร้อมกับเทคโนโลยี VVA วาล์วแปรผันควบคุมด้วยมอเตอร์โซลินอยด์สั่งการทำงานช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ 6000 รอบต่อนาที ช่วยให้ให้กำลังแรงม้าที่มากขึ้นกว่าเดิมเป็น 15.4 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 13.9 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบต่อนาที

นอกจากนี้ยังมีการใช้ลูกสูบใหม่ เป็นลูกสูบฟอร์จหัวนูน น้ำหนักเบา แข็งแรง และถ่ายเทความร้อนได้ดี แต่ให้กำลังอัดที่มากขึ้นจากเดิม 10.5:1 เป็น 11.6:1 ทำให้ตัวรถมีอัตราการเร่งที่ดีขึ้น บิดติดมือมากขึ้นกว่าเดิม ยังมีการออกแบบกระบอกสูบใหม่แบบเยื้องศูนย์ ทำให้ลดแรงเสียดทานด้านข้างลูกสูบกับผนังกระบอกสูบทำให้ลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

 

ออกแบบฝาสูบใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ด้วยท่อไอดีแบบคอคอดเร่งความเร็วส่วนผสมของไอดีเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และยังออกแบบช่องทางเดินน้ำหล่อเย็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ปรับให้หม้อกรองอากาศใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพการส่งอากาศเข้าห้องเผาไหม้ทำให้เพิ่มอัตราการตอบสนองของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น

เครื่องยนต์ตัวใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนโดยใช้เทคโนโลยีกระบอกสูบแบบไดอะซิล (DiASil) พร้อมปรับตำแหน่งตัวดันโซ่ราวลิ้นใหม่ ตัวเสื้อสูบใหม่ให้น้ำหนักที่เบาทนทาน ระบายความร้อนได้มากกว่ากระบอกสูบทั่วไปถึง 3 เท่า ลดแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบเต็มระบบโดยมีรังผึ้งระบายความร้อนที่ถูกติดตั้งด้านข้างเครื่องยนต์ พร้อมกับติดตั้งเทอร์โมสตัทและวาล์วบายพาสทำให้ระบายความร้อนได้รวดเร็วส่งผลให้เครื่องยนต์ลื่นไหลในทุกช่วงรอบความเร็ว

 

ถังน้ำมันใหญ่ไปได้ไกลขึ้น


ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทำให้มีความจุเพิ่มขึ้น 0.9 ลิตร ทำให้ในตัวนี้สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 5.5 ลิตร ยืดระยะการเดินทางและสะดวกสบายต่อการเดินทาง ไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อย

 

เทคโนโลยีเน้นๆ แน่นๆ

 

เจ้าแอร็อกซ์นั้นนอกจากจะปรับปรุงในส่วนต่างๆ มากมายแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นระบบสมาร์ทคีย์ (เฉพาะรุ่น) และช่องจ่ายไฟแบบ USB อีกด้วย และที่สำคัญคือยังไม่ลืมที่จะใส่เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นระบบ Smart Motor Generator (SMG) มอเตอร์ผลิตไฟฟ้าแบบอัจฉริยะ เป็นมอเตอร์สตาร์ทและเป็นตัวผลิตไฟฟ้าอยู่ในตัวเดียวกัน สามารถที่จะผลิตไฟฟ้าได้ 3 เฟส ช่วยให้สตาร์ทเครื่องยนต์ได้เงียบและง่ายดาย ไม่ต้องบำรุงรักษามอเตอร์สตาร์ทอีกต่อไปด้วย

ต่อมาเป็นระบบ Stop Start System (SSS) เป็นเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำมัน ระบบนี้จะดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่งและทำงานที่รอบเดินเบา ช่วยประหยัดน้ำมันเวลารถติดๆ หรือจอดติดไฟแดงได้เป็นอย่างดี และเพียงแค่เปิดคันเร่งมอเตอร์ SMG ก็จะช่วยสตาร์ทเครื่องและออกตัวรถได้ในทันที (เฉพาะรุ่น ABS เท่านั้น)

และไฮไลท์สำคัญของโมเดลนี้ก็คือ Yamaha Y-Connect เทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุดจากทางยามาฮ่า ที่ได้ใส่ลงไปคลาส 150 ซีซีถือว่าเป็นครั้งแรกของโลกเลยสำหรับคลาสนี้ เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนามาให้สำหรับลูกค้าที่ตัวรถถูกติดตั้ง อุปกรณ์ CCU รองรับการเชื่อมต่อระบบรายงานผลที่มาพร้อมกับตัวรถ ช่วยให้สามารถที่จะรับรู้ข้อมูลต่างๆ ของตัวรถได้อย่างครบถ้วน และยังที่จะช่วยเตือนข้อความต่างๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอีกด้วย

โดยการเชื่อมต่อตรงนี้ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่น Y-Connect ได้ทั้งระบบ Android และ IOS จากนั้นสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถได้ง่ายดาย 3 วิธีด้วยกันโดยเปิดแอพพลิเคชันขึ้นมาแล้ว สแกน QR Code ที่อยู่บนกล่องสัญญาน CCU ซึ่งอยู่ใต้เบาะ หรืออย่างที่ 2 สแกนบาร์โค้ดหมายเลขโครงรถ หรืออย่างที่ 3 กรอกหมายเลขโครงรถในแอพฯ ก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างไม่อยากเย็น

 

ฟีลลิ่งการขับขี่


มาพูดถึงการตอบสนองของเครื่องยนต์บล็อกใหม่กันก่อนเลย เพราะมามีการเปลี่ยนแปลงมาใหม่หมด เครื่องยนต์ที่พื้นฐานมีกำลังอัดที่มากขึ้น เปลี่ยนลูกสูบใหม่ แรงม้าขึ้นมานิดหน่อย จากการขับขี่จริงๆ ช่วงรอบต้นออกตัวได้ดีมากขึ้นกว่าตัวเดิม บิดติดมือดีขึ้น ทำให้จังหวะในการใช้คันเร่งเพื่อเร่งแซงก็ไม่ต้องลุ้นมากมายเท่าไรนัก เอาเป็นว่าเครื่องยนต์บล็อกใหม่ ดีกว่าเดิม ขี่สนุกขึ้นจนเห็นได้ชัดเจนเลยละครับ

ในส่วนช่วงล่างไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย จะมีเพียงโช้คอัพหลังของตัว STD ที่มีค่าความแข็งเพิ่มขึ้นทำให้การเลี้ยวการขับขี่จะกระชับขึ้นมาดีกว่าเดิม แต่ในส่วนของตัวท็อปมี ABS ก็ยังคงหล่อเหมือนเดิมมีโช้คซับแทงค์มาให้ก็ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อมี ABS ที่เบรกหน้าก็ช่วยลดระยะการเบรกให้สั้นลงกว่าโมเดลสแตนดาร์ด

 

สรุป

สำหรับใครที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์สไตล์สปอร์ต ขับขี่สนุกบิดติดมือ ก็คงจะหนีไม่พ้นคันนี้อย่างแน่นอน บอกเลยว่าทางยามาฮ่าทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งในเรื่องเครื่องยนต์ สีตัวรถ และเทคโนโลยีสุดล้ำได้ตรงใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอบโจทย์คนเจเนอเรชั่นใหม่ได้อย่างแน่นอน…

Special Thank
ต้องขอขอบคุณหมวกกันน็อกสุดเท่ สีสันสดใส ตัวใหม่ล่าสุดจากทาง X-Lite Thailand มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

อ่านบทความ Yamaha อื่นๆ คลิกที่นี่ 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version