ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ
นับเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและสมรรถนะของยางแบรนด์อิตาลีอย่างพีเรลลีที่ปีนี้ได้เป็นผู้ซัพพอร์ตยางสำหรับการแข่งขันในรายการ Moto2 และ Moto3 ได้เป็นอย่างดี หลังจากการแข่งขัน MotoGP 2024 ที่โปรตุเกสจบลง โดย ยางซอฟต์จาก Pirelli มีส่วนช่วยหนุนนักแข่งทั้งในพิกัด Moto2 และ Moto3 ทำลายสถิติเวลาของสนามนี้ทั้งสถิติเวลาสนามและสถิติเวลาแข่ง
ทุบสถิติสนาม
สำหรับรอบควอลิฟาย Manuel Gonzalez (QJMOTOR Gresini Moto2/Kalex) เป็นคนที่เร็วที่สุดในคลาส โดยทำเวลาได้ที่ 1’41.514 นาที จัดเป็นสถิติสนามใหม่ในรุ่นนี้ และได้ตำแหน่งโพลไปครอง เช่นเดียวกันกับ Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo/KTM) ได้ตำแหน่งโพลในรุ่น Moto3 ด้วยสถิติเวลาใหม่ของสนามเช่นกัน โดยทำเวลาได้ที่ 1’46.379 นาที ซึ่งทั้งสองรุ่นดังกล่าวนักแข่งล้วนมั่นใจในยางซอฟต์ โดยรุ่น Moto2 นิยมเลือกยางหน้า SC1 และยางหลัง SC0 ขณะที่รุ่น Moto3 เลือกใช้ SC1 ทั้งในยางหน้าและยางหลัง
สถิติที่ว่านี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือได้มาโดยง่าย โดยในช่วงเช้าวันศุกร์นั้นแทร็กค่อนข้างจะสกปรกเนื่องจากฝนและทรายผสมปนเปกันในตอนกลางคืน และทำให้ต้องมีการยกเลิกช่วงซ้อมอิสระของทาง Moto3 ไป แต่หลังจากที่นักแข่งค่อย ๆ ขี่ไปได้สักแล็ปสองแล็ป แทร็กก็ดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้สามารถที่จะรีดเวลาแล็ปได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในช่วงของการควอลิฟาย
ในรอบของการควอลิฟาย Moto3 จัดขึ้นขณะที่มีอุณหภูมิอากาศอยู่ที่ 23 องศา ส่วนผิวแทร็กอยู่ที่ราว ๆ 32 – 35 องศา โดยเริ่มแรกมี Joel Kelso (BOE Motorsports/KTM) เป็นคนแรกที่ประเดิมการทำลายสถิติสนามที่ Ayumu SASAKI ทำไว้ในปี 2023 และเมื่อจบการควอลิฟาย นักแข่งที่มีชื่ออยู่ใน 4 อันดับแรก Rueda, Kelso, Alonso, และ Holgado ตามลำดับล้วนแล้วแต่ ทำเวลาทะลุสถิติเดิม โดย Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo/KTM) โพลแมน ทำสถิติเวลาดีที่สุดในแล็ปที่ 7 ทำสถิติสนามใหม่ โดยดีกว่าสถิติเดิมเกือบ ๆ 0.4 วินาที แน่นอนว่าทุกคนใช้ยางหลังแบบซอฟต์หรือ SC1 แต่ตัวเลือกยางหน้านั้นต่างกันออกไป
มาดูรุ่น Moto2 กันบ้าง นักแข่งหัวแถวทั้ง 4 คน เลือกยางเหมือนกันคือเลือกยางซอฟต์ที่สุดเท่าที่มีให้ โดยเลือกยางหน้าเป็น SC1 และยางหลัง SC0 แม้ว่าใน Q1 จะเลือกยางต่างกันก็ตาม โดย สมเกียรติ, Angius และ Ogura ใช้ยางหน้าเป็น SC2 แต่ต่อมาก็เปลี่ยน โดยในการควอลิฟายเป็น Manuel Gonzalez (QJMOTOR Gresini Moto2/Kalex) ที่เซ็ตสถิติของสนามในพิกัดนี้เสียใหม่ในแล็ปที่ 7 ด้วยเวลา 1’41.514 คว้าตำแหน่งโพลไปครอง นอกจากนี้แล้วทั้ง 4 คนนี้ยังทำเวลาทะลุสถิติสนามเดิมที่ Aron Canet เคยทำไว้ในปี 2023
ทุบสถิติเวลาแข่ง
และเมื่อการแข่งขันจริงของทั้งสองรุ่นภายใต้การซัพพอร์ตของพีเรลลี่จบลง ผลออกมาก็คือสองนักแข่งจากสเปน ทั้ง Aron Canet (Fantic Racing/Kalex) ในรุ่น Moto2 และ Daniel Holgado (Red Bull GASGAS Tech3/GASGAS) ในรุ่น Moto3 เป็นผู้ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมและคว้าชัยชนะในพิกัดของตัวเองไป
ในรุ่น Moto2 นั้นการเลือกยางหลังนั้นทุกคนใจตรงกันหมด โดยทุกคนเลือกใช้ยางหลังเป็น SC0 ยางซอฟต์ที่สุดที่มีให้ใช้ในสนามแห่งนี้ ในขณะที่รุ่น Moto3 ยาง SC1 เป็นยางที่นักแข่งเลือกใช้มากที่สุด 17 คนจาก 27 คน ส่วนเรื่องของการเลือกยางหน้านั้นต่างกันออกไป วินเนอร์อย่าง Canet เลือกใช้ SC2 ขณะที่ Joe Roberts (OnlyFans American Racing Team/Kalex) และโพลแมน Manuel Gonzalez เลือกใช้ยางหน้า SC1
อย่างไรก็ตามสถิติเวลาแข่งขันที่เร็วที่สุดในรุ่น Moto2 นั้นตกเป็นของ Fermín Aldeguer (Beta Tools SpeedUp/Boscoscuro) ที่สามารถทำสถิติเวลาแข่งเร็วที่สุดได้ที่ 1’42.221 นาที ในแล็ปที่ 11 เร็วกว่าสถิติเดิมของ Remy Gardner ที่ทำไว้ในปี 2020 เกือบ 0.3 วินาที นอกจากนี้เวลาที่ใช้แข่งโดยรวมของรุ่นนี้ยังดีขึ้นกว่าปีที่แล้วอีกด้วย
ขณะที่ในรุ่น Moto3 นั้นเราจะได้เห็นสูตรการเลือกยางของนักแข่งที่มีหลากหลายแตกต่างกันออกไป อย่าง Daniel Holgado (Red Bull GASGAS Tech3/GASGAS) วินเนอร์เลือกแปลก ใช้ยาง SC2 ทั้งหน้าและหลัง ส่วน Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo/KTM) ที่ได้อันดับ 2 เลือกใช้ SC1 ทั้งหน้าและหลัง และ Ivan Ortola (MT Helmets – MSI/KTM) เลือกใช้ยางหน้า SC2 และยางหลัง SC1 ซึ่งโดยรวมแล้วยางหน้าที่นิยมมากที่สุดจะเป็น SC2 เลือกใช้ 18 คนจากทั้งหมด 26 คน ขณะที่ยางหลังจะเป็น SC1 เลือกใช้มากที่สุด 15 คนจาก 26 คน
ส่วนเรื่องของสถิติเวลานั้นเป็น David Alonso (CFMOTO Gaviota Aspar Team/CFMOTO) ที่ทำสถิติเวลาแข่งขันขึ้นใหม่ด้วยเวลา 1’46.985 นาทีในแล็ปที่ 6 โดยเร็วกว่าสถิติเดิมของ Deniz Oncu ในปี 2023 เกือบ 0.6 วินาที นอกจากนี้การแข่งขันพิกัดนี้ยังจบเร็วกว่าปีที่แล้วถึง 18 วินาทีด้วยกัน เท่ากับว่าเวลาโดยรวมเร็วขึ้นตกเฉลี่ยนแล็ปละเกือบ 1 วินาทีเลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมที่พีเรลลี่ช่วยให้นักแข่งทั้งสองรุ่นสามารถทำลายสถิติเวลาของสนามแห่งนี้ได้ทั้งสถิติเวลาสนาม และสถิติเวลาแข่ง ยกระดับมาตรฐานของการแข่งขันให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก สมแล้วที่จะพูดว่า ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก