Home ข่าวมอเตอร์ไซค์ ตัดแต้มใบขับขี่ สำหรับรถสาธารณะและขนส่ง เริ่ม 1 ธันวาฯ นี้

ตัดแต้มใบขับขี่ สำหรับรถสาธารณะและขนส่ง เริ่ม 1 ธันวาฯ นี้

0

ตัดแต้มใบขับขี่ สำหรับรถสาธารณะและขนส่ง เริ่ม 1 ธันวาฯ นี้

ล่าสุดทางกรมการขนส่งทางบกก็ได้ขานรับนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำระบบตัดแต้มมาพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ หรือ ตัดแต้มใบขับขี่ สำหรับผู้ขับรถสาธารณะและรถขนส่งเท่านั้น!!! มุ่งสร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมการขับขี่อย่างปลอดภัย ลดการกระทำผิดซ้ำ ดีเดย์ 1 ธ.ค. 64 เริ่มบังคับใช้มาตรการตัดแต้มใบอนุญาต

แน่นอนว่าอาชีพที่ได้รับผลกระทบจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกคือรถสาธารณะอย่าง พี่วินมอเตอร์ไซค์ พี่แท็กซี่ พี่ตุ๊กตุ๊ก และกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มรถขนส่ง คนขับรถบรรทุกขนส่ง และคนขับรถโดยสาร ซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้มีเกณฑ์ที่ต่างกันออกไป 

แต่ที่เหมือนกันคือ จะกำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาต มีคะแนน 100 คะแนน สำหรับใช้ในการบันทึกคะแนนและตัดคะแนน การตัดคะแนนจะแบ่งตามกลุ่มข้อหาความผิดเป็น 3 กลุ่ม ตามความร้ายแรงของการกระทำความผิด กลุ่มที่ 1 ตัดคะแนนครั้งละ 10 คะแนน กลุ่มที่ 2 ตัดคะแนนครั้งละ 20 คะแนน และกลุ่มที่ 3 ตัดคะแนนครั้งละ 30 คะแนน 

 

สำหรับกลุ่มแรก รถสาธารณะอย่าง พี่วินมอเตอร์ไซค์ พี่แท็กซี่ พี่ตุ๊กตุ๊ก การตัดคะแนนจะมีดังนี้

ตัดครั้งละ 10 คะแนน ตัดครั้งละ 20 คะแนน  ตัดครั้งละ 30 คะแนน
ไม่แสดงบัตรประจำตัวผู้ขับรถ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร กระทำการลามก
ใช้รถที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ปฏิเสธผู้โดยสาร ขับรถประมาท หวาดเสียว เป็นอันตราย
ใช้รถไม่ตรงตามที่จดทะเบียน ไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง ทิ้งผู้โดยสารกลางทาง แก้ไขดัดแปลงมาตรค่าโดยสาร
ใช้รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้าง แสดงกิริยาไม่สุภาพ เมาสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถ
ก่อความรำคาญให้แก่ผู้โดยสาร เสพของมึนเมาขณะขับรถ ขับรถระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ พักใช้หรือถูกยึด
ใช้รถสิ้นอายุ เก็บค่าโดยสารเกินกฎหมายกำหนด

 

กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มรถขนส่ง คนขับรถบรรทุกขนส่ง และคนขับรถโดยสาร ซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้มีเกณฑ์ที่ต่างกันออกไป 

ตัดครั้งละ 10 คะแนน ตัดครั้งละ 20 คะแนน  ตัดครั้งละ 30 คะแนน
แสดงกิริยาไม่สุภาพขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช้เครื่อง GPS กระทำการลามก
ไม่ดูแลผู้โดยสารให้ปลอดภัยขณะโดยสาร ไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถ ใช้อุปกรณ์ตัดสัญญาณ GPS
ไม่หยุดรับหรือส่งผู้โดยสาร ณ ที่ให้หยุด ไม่ใช้อุปกรณ์ล็อกตู้บรรทุกสินค้า ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ
ใช้ความเร็วเกินกำหนด แต่ไม่เกิน 100 กม./ชม. ละทิ้งหน้าที่ผู้ขับรถ บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ระเบิด หรือวัตถุอันตรายโดยฝ่าฝืนข้อห้าม
บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ให้ผู้โดยสารลงก่อนถึงจุดหมายปลายทาง
ใช้ความเร็วเกินกำหนด ตั้งแต่ 101 – 110 กม./ชม. ขับรถประมาท หวาดเสียว เป็นอันตราย
ใช้ความเร็วเกิน 110 กม./ชม.

 

การลงโทษ

  • กรณีถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 จะถูกสั่งพักใบอนุญาต 90 วัน 
  • หากถูกพักใช้ใบอนุญาตเกินกว่า 2 ครั้ง ภายใน 3 ปี (นับจากวันที่ถูกตัดคะแนนครั้งแรก) จะถูกพักใช้ใบอนุญาต 180 วัน
  • กรณีทำผิดร้ายแรง หรือการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงหรือภาพพจน์ของประเทศ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น เป็นภัยสังคม หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจำนวนมาก จะถูกพักใช้ใบอนุญาต และถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 ในครั้งเดียว

นอกจากนี้ยังมีการคืนคะแนน เพื่อให้โอกาสปรับปรุงตัว และประกอบอาชีพต่อได้ ด้วยการทำดังต่อไปนี้

การคืนคะแนน

  • เข้ารับการอบรมหลักสูตร 2 ชม. และทดสอบผ่านการอบรมจะได้รับคะแนนคืน 50 คะแนน (คะแนนรวมกันกับที่คงเหลืออยู่ต้องไม่เกิน 100 คะแนน)
  • เข้ารับการอบรมหลักสูตร 4 ชม. และทดสอบผ่านการอบรมจะได้รับคะแนนคืน 100 คะแนน (คะแนนรวมกันกับที่คงเหลืออยู่ต้องไม่เกิน 100 คะแนน)

ทั้งนี้ขอเข้าอบรมได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น หากอบรมแล้วสอบไม่ผ่าน สามารถทดสอบใหม่ได้อีก 3 ครั้ง ภายใน 7 วัน และหากไม่ถูกตัดคะแนนอีกภายในเวลา 3 ปี จะได้รับคะแนนคืนกลับมาเป็น 100 คะแนนเช่นเดิม

โดยสามารถขอรับอบรมและทดสอบได้ที่ กองตรวจการขนส่งทางบน สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 4 และกลุ่มวิชาการขนส่งจังหวัดของทุกจังหวัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

งานนี้ใครที่ประกอบอาชีพเหล่านี้หรือมีคนรู้จักก็อย่าลืมช่วยกันเตือน กันด้วยนะครับ หรืออาจจะจำกฎเหล่านี้ไปเตือนผู้ขับรถเวลาที่เขากำลังจะทำผิด เผื่อว่าเขาจะมีสติและไม่ทำผิด และจะได้ปลอดภัยแต่ตัวท่านเองและคนอื่น ๆ ด้วยนะครับ 

ปล. ส่วนเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเหล่านี้จริง ๆ แล้วก็ไม่ควรกระทำการต่าง ๆ ที่ว่าด้วยนะครับ เพราะท่านไม่ได้ถูกตัดคะแนน แต่ท่านจะถูกจับ ปรับและอาจติดคุกได้ เพราะว่าข้อกำหนดส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นข้อกฏหมายจราจรอยู่แล้วครับ

 

สุดท้ายนี้ ขับขี่ปลอดภัย เปิดไฟใส่หมวกกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ที่มา https://www.dlt.go.th/th/public-news/view.php?_did=2991

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version