กรองอากาศแต่ง ทำให้รถแรง แต่เครื่องพังจริงหรือ?
บ่อยครั้งที่มีคนมาบอกว่า “กรองอากาศแต่ง อากาศผ่านได้มาก แต่ฝุ่นก็เข้าไปมากจนทำให้เครื่องพัง”…..จริงครับ อากาศผ่านเข้าไปได้ดีกว่ากรองกระดาษแบบติดรถจากโรงงาน แต่ที่ฝุ่นเข้าไปได้เยอะเนี่ยไม่น่าใช่ของกรองอากาศจาก BMC เป็นแน่
การเลือกกรองอากาศก็เหมือนการให้รถมีอากาศที่บริสุทธิ์ไหลผ่านเข้าสู้ห้องเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ แน่นอนว่าถ้ามีเศษฝุ่นเข้าไปข้างใน ผลเสียที่ตามมาคือ ลูกสูบ เสื้อสูบ ข้อเหวี่ยง ต่าง ๆ เกินที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือได้อ่านกัน เหมือนคุณไปอยู่ในห้องที่มีฝุ่นแล้วหายใจเข้าเอาอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าไป แต่ทุกอย่างนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับกรองอากาศที่มีชื่อว่า BMC Air Filter
ย้อนกลับไปในปี 1973 BMC ได้ถือกำเนิดขึ้นที่เมือง Bologna ประเทศอิตาลีด้วยจิตวิญญาณที่รักในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ของ Gaetano Bergami ผู้ก่อตั้งบริษัท และในปี 1976 BMC ได้พัฒนารถมอเตอร์ไซค์คันแรกของตัวเองสำหรับ TT1 1000 Championship (ปัจจุบันคือ Superbike) และในการแข่งขัน MotoGP นั้น ทีม Yamaha MotoGP ได้ร่วมมือกับ BMC พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานสำหรับทีมแข่งมากยิ่งขึ้น
เมื่อแรงม้าที่มาเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนกรองอากาศ ย่อมมีแรงโม้ที่บอกว่า “มันไม่ดี” “ฝุ่นเข้าเยอะนะ” แต่คุณเชื่อไหมครับว่า คนที่พูดออกมาแบบนี้เขาเคยใช้แล้วหรือยัง หรือฟังเขามาอีกที ถ้าบอกข้อมูลได้คุณก็ต้องมีเหตุผลที่มาหักลบตรงนี้ได้ว่ามันพัง ฝุ่นมันเข้าไปเพราะอะไร?
ก่อนจะไปกันต่อ ขอเล่าให้ฟังนิดนึงว่า BMC เป็นแบรนด์ที่ลงทุนในเรื่องของทีมวิจัยและพัฒนา ทั้งห้องแล็บและเทคโนโลยีต่าง ๆ เขามีความพร้อมมาก นอกจากนั้นแล้วทีมวิศวกรที่คอยพัฒนาสินค้ายังได้ร่วมมือกับซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์แบรนด์ดัง ๆ อย่าง Lamborghini, Porsche, Ferrari, Pagani, Bugatti และ Aston Martin ที่มีรถระดับราคา 15-600 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ต่างก็เลือกใช้กรองอากาศ BMC ติดรถมาจากโรงงานกันเลยนะ ไม่สิ…ต้องบอกว่าค่ายรถเดินเข้ามาหา BMC เพื่อให้โรงงาน BMC ผลิตกรองอากาศให้กับเครื่องยนต์หลายร้อยแรงม้าของพวกเขา นี่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัว BMC อย่างมาก
แค่นั้นยังไม่พอ BMC ได้การรับรอง Certifications EN 9100 : 2018 and ISO 9001 : 2015 และ EN9100:2005 Aerospace Quality Management วัสดุสำหรับการบินและอวกาศ ยานยนต์ กองทัพเรือ และภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลแค่นี้คงยังไหมพอใจใช่ไหม งั้นมาคุยกันต่ออีกนิดนึงกันครับ
BMC ได้ผลิตกรองอากาศออกมา 2 แบบ ดังนี้ครับ
- กรองอากาศแบบมาตรฐาน
กรองตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือการแข่งขันสามารถนำตัวกรองนี้ไปใช้งานได้ทั้งสองทางเลย (On Road / Racing)
- กรองอากาศแบบเรซซิ่ง
ถ้าความเร็วคือสิ่งที่คุณหลงใหล ตัวกรองอากาศเรซซิ่งตัวนี้เหมาะสำหรับเครื่องที่มีการโมดิฟายมาอย่างเต็มที่ มีการอัปเกรดชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วิธีสังเกตตัวกรองอากาศแบบนี้จะมีเส้นสีเหลืองบริเวณตัวกรองผ้า
ที่บอกมามีแต่บนท้องถนนและในสนามแข่ง แล้วรถวิบากใช้งานได้ไหม? ขอตอบเลยนะครับ ใช้ได้ครับ! อ่ะ ขอตีลังกามาคอนเฟิร์มอีกรอบว่า ใช้ได้ครับ! เพราะอะไรถึงใช้ได้….เพราะว่าตัวกรอง BMC จะประกอบไปด้วยตาข่ายอลูมิเนียมป้องกันสนิมและตัวผ้ากรองที่ทำมาจากผ้า Cotton Gauze ที่นำสานทอเป็นชั้น ๆ ไม่ให้มีรูระหว่างช่องจนเป็นครีบ (Fin) หยัก ๆ สลับฟันปลาอย่างที่ได้เห็นกัน โดยผ้ากรองนี้จะมีการชุบน้ำมันดักฝุ่นที่คอยดักจับสิ่งเจือปนภายในอากาศเวลาที่ขับขี่ ประสิทธิภาพในการกรองอากาศนั้นอยู่ที่ 98.5% ในการทดสอบจาก ISO 5011 เท่านั้นยังไม่พอ ตัวน้ำมันที่ดักจับฝุ่นนี้สามารถป้องกันสิ่งแปลกปลอมในอากาศที่มีขนาดเล็กได้ถึง 7 ไมครอนทีเดียว (กรอง OEM อยู่ที่ 10 ไมครอน)
นอกจากดักฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังได้พื้นที่ในการไหลเวียนของอากาศเพิ่มเข้าไปในห้องเผาไหม้ สำหรับเครื่องยนต์ดึงสมรรถนะ ออกมาได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นตัวเลือกสำหรับนักแข่งที่ต้องการแรงม้าสำหรับแข่งขันอย่างในรายการ Formula1, MotoGP และ WorldSBK เป็นต้น ซึ่งมีนักแข่งหลายทีมเลือกใช้ BMC เพื่อแย่งตำแหน่งยืนบนโพเดียมในสนามแข่ง
สำหรับสายฝุ่นที่ใช้กรองอากาศ BMC ในแข่งขันหรือว่าออกทริปลุยฝุ่นแบบหฤโหดมาแล้ว คุณควร “ล้างทำความสะอาดและเคลือบกรองอากาศ BMC ทันที หลังจากขับขี่เสร็จ” เพื่อป้องกันเศษฝุ่นที่ค้างที่กรองอากาศเป็นเวลานาน ทำให้เกิดแข็งเป็นก้อนตามสถานะของตัวฝุ่นมันเอง
ทั้งนี้กรองอากาศแบบกระดาษจะไม่สามารถนำมาล้างได้เพราะจะทำให้เสียหายต้องซื้อเปลี่ยนใหม่เท่านั้น แต่กรองอากาศ BMC สามารถใช้ชุด Washing Kit สำหรับล้างและเคลือบกรองอากาศได้ดั่งเดิม สำหรับการล้างเคลือบกรองอากาศนั้นสามารถทำได้ทุกๆ 20,000-25,000 โล หรือถ้าสภาพแวดล้อมมีฝุ่น ทราย ถนนลูกรังเยอะขอแนะนำให้ตรวจเช็คและล้างทำความสะอาดที 10,000-15,000 โล ถึงแม้ว่ากรองอากาศ BMC สามารถใช้งานได้ถึง 1,000,000 กิโลเมตร แต่ถ้าขาดการดูแลที่ดี การที่ทำให้กรองอากาศและเครื่องยนต์เสียหายได้นั้นเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ตัวเคสยางของกรองอากาศนั้นใช้เทคโนโลยีในการผลิตระบบ “Full Moulding” การผลิตแบบนี้ทำให้ตัวยางของกรองอากาศ BMC ไร้รอยเชื่อมต่อ ยืดหยุ่น จึงไม่มีการแตกหัก แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทานสูงและมีคุณสมบัติในการยึดเกาะกับช่องแอร์บ็อกซ์ได้ดีทุกรูปทรง
และที่สำคัญทุกอย่างที่กล่าวผ่านการทดสอบ ทดลอง และได้รับมาตรฐานระดับโลกต่าง ๆ ถ้าสินค้าไม่ดีและไม่มีคุณภาพแบรนด์ BMC คงไม่อยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต หรือเป็นแบรนด์ที่ค่ายรถซูเปอร์คาร์ราคาหลายร้อยล้านมาหลายทศวรรษแบบนี้ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยยังมีนักแข่งในรายการ OR BRIC Superbike 2022 อย่าง “ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร” และ “น้องซันวา ศิริลักษณ์ เยี่ยงกุลเชาว์” ที่เลือกใช้กรองอากาศ BMC ในการแข่งขันด้วย
“มั่นใจคุณภาพสินค้าของแท้และมั่นใจบริการหลังการขายด้วยตัวแทนนำเข้าจาก Maverix Group เท่านั้น”
ติดตามกิจกรรมและสอบถามสินค้าได้ที่
Website : www.racelinesuperbike.com/
Facebook : BMC Thailand – Motorcycle
Line: https://bit.ly/LineMaverix
 |
 |
