Home ข่าวมอเตอร์ไซค์ เปลี่ยนโซ่ กับ 5 จุดสังเกต ที่เหล่าไบค์เกอร์ควรรู้

เปลี่ยนโซ่ กับ 5 จุดสังเกต ที่เหล่าไบค์เกอร์ควรรู้

0

เปลี่ยนโซ่ กับ 5 จุดสังเกต ที่เหล่าไบค์เกอร์ควรรู้ 

สวัสดีแฟน ๆ SuperBike ทุกท่าน ครั้งนี้แอดก็ได้มีโอกาสมาแนะนำเกี่ยวกับชิ้นส่วนสำคัญในรถมอเตอร์ไซค์อย่าง “โซ่ สเตอร์” ตัวส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อหลังให้รถมอเตอร์ไซค์สุดที่รักของท่าน สามารถเคลื่อนที่ได้นั่นเอง แต่ทว่าเมื่อใช้งานไปแล้ว เกิดอยาก เปลี่ยนโซ่ หรือยังไม่รู้ว่าควรเปลี่ยนโซ่ตอนไหนดี ให้ลองดู 5 จุดสังเกต ถ้าหากทุกคนเจออาการดังกล่าวนี้ ให้ทำการเปลี่ยนโซ่ได้ทันทีเลยครับ

5 จุดสังเกต ที่ควรต้องเปลี่ยนโซ่ มีอะไรบ้าง

1.โซ่ยืด
“โซ่ยืด” หรือที่บ้านเรามักเรียกติดปากว่า โซ่หย่อน ปัญหายอดฮิตของรถมอเตอร์ไซค์ที่เหล่าไบค์เกอร์ล้วนเผชิญ (รถมอเตอร์ไซค์แบบใช้โซ่นะ) โดยสาเหตุของปัญหาเหล่านี้เกิดจากการเสียดสีของชิ้นส่วน 2 ชิ้น คือ สลักและปลอกสลักเสียดสีกัน ใช้งานไปเรื่อย ๆ จนเกิดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนที่ทำให้โซ่ยืด อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้ง บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป ตั้งโซ่ตึงจนเกินไป บิดกระชากหนัก ๆ เป็นต้น

2.สนิมขึ้นโซ่
หากโซ่รถใครสนิมขึ้นล่ะก็ เตรียมใจเปลี่ยนได้ทันที สำหรับอาการสนิมขึ้นโซ่ นั้นเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า คุณขาดการทำความสะอาดดูแลรักษา ปล่อยให้ฝุ่น เศษละอองหินหรือทราย เข้ามาเกาะบริเวณโซ่ ปล่อยปะละเลยจนโซ่ขึ้นสนิม จนข้อต่อของตัวโซ่นั้นเสื่อมสภาพเป็นที่เรียบร้อย เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนทันทีก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ในวันข้างหน้า

3.ฟันสเตอร์แหลม
หากรถใครยังไม่เกิดอาการตาม 2 ข้อข้างบนนี้ ให้ลองใช้นิ้วสัมผัสไปที่ที่ฟันสเตอร์หลังว่าแหลมมากน้อยเพียงใด หรือกดร่องสเตอร์ว่ามีความลึกน้อยแค่ไหน หากแหลมจนน่าเกลียดเกินไปละก็ แสดงว่าโซ่นั้นกินเนื้อฟันสเตอร์มากเข้าไปเต็มทีเสียแล้ว ควรเปลี่ยนโซ่สเตอร์ทั้งชุด เพื่อความอุ่นใจและความปลอดภัยของผู้ขับขี่อีกด้วยครับ

4.ใช้งานเกินระยะที่กำหนด
สำหรับโซ่ติดรถเดิม ๆ และใช้งานไปแล้วประมาณ 10,000 – 15,000 กม. ให้ลองสังเกตดูว่าโซ่รถของคุณเป็นอย่างไรบ้าง หรือทางที่ดีก็เปลี่ยนก่อนเลย และสำหรับโซ่ที่มีคุณภาพสูงขึ้นมาหน่อย ให้ควรกะไว้ซักประมาณ 15,000 – 20,000 กม. หรือดูตามการใช้งาน ว่าใช้หนักมากน้อยเพียงใด ถ้าหากเป็นนักบิดสายซิ่งกระโชกโฮกฮาก แล้วโซ่เกิดอาการสึกหรอตามการใช้งานแล้วหล่ะก็ สามารถเปลี่ยนได้เลยครับ ไม่ต้องรีรอให้รถเกิดอาการก่อน ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อนครับ

5.เสียงดังผิดปกติ
เสียงที่เกิดมาจากโซ่ในระหว่างที่คุณขับขี่ คอยรบกวนใจ ชวนให้หงุดหงิดทุกครั้ง นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า โซ่ของคุณนั้นไม่ไหวแล้ว หากปล่อยเช่นนี้อาจทำให้โซ่ขาดได้ ควรเปลี่ยนได้ทันทีเลย 

และในครั้งนี้ ตัวแอดเองก็ได้มีโอกาสนำรถเปลี่ยนชุดโซ่ สเตอร์ เนื่องจากใช้งานมาเกินระยะที่กำหนด มีเสียงดัง แถมสนิมขึ้น เรียกได้ว่าไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงเลยนำรถมาใช้บริการที่ศูนย์บริการยางบิ๊กไบค์และซ่อมบำรุง ShowPow ทุกสาขา สามารถสอบถามรายละเอียดการดูแลรักษาสินค้า หรือถ้าต้องการสินค้าสามารถติดต่อซื้อสินค้าได้เลย

เปลี่ยนแล้ว ดียังไง
หลังจากเปลี่ยนโซ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนครับ ตัวผมเองก็เลือก โซ่ D.I.D สีดำทอง เลยขอลองเอามาขับขี่ดูกันหน่อย ซึ่งในจุดนี้แอดต้องขออภัยเพราะไม่ได้ถ่ายภาพตอนขับขี่มาให้ชม แต่จะขอเล่าฟีลลิ่ง ซึ่งหลังจากที่เปลี่ยนโซ่ไปแล้วรู้สึกว่า รถวิ่งดีขึ้น เสียงหาย ไม่รบกวนใจอีกต่อไป แถมได้ความหล่อ พรีเมียม ดูซิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก ขี่ให้เขารู้ไปเลยว่าคันนี้ใช้ D.I.D นะ

คลีนเนอร์ทำความสะอาดโซ่ D.I.D

วิธีการทำความสะอาด และดูแลรักษาโซ่
สำหรับการดูแล บำรุงรักษาโซ่นั้น ควรหมั่นทำความสะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์คลีนเนอร์ล้างคราบน้ำมันจาระบี เศษฝุ่นละออง หิน กรวด ทราย ที่ติดอยู่บริเวณโซ่ และหลังจากล้างแล้ว หมั่นหยอดน้ำมันหล่อลื่นในการใช้งานทุก ๆ 500 กม. หรือประมาณเดือนละครั้ง เพื่อรักษาสภาพสภาพยางโอริง ลดอาการเสียงดัง และควรตั้งโซ่ให้ได้ระยะตามมาตรฐานของคู่มือรถอีกด้วยนะครับ

*ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซินหรือผงซักฟอกในการล้างทำความสะอาดโซ่ เนื่องจากน้ำมันเบนซินจะทำปฏิกิริยากับยางโอริงของโซ่ ซึ่งจะส่งผลให้โอริงเสียหาย

สรุปแล้วกันนะครับ ว่า “โซ่ เสตอร์” ถือว่าเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมากในรถของคุณเลยแหล่ะ ยังไงก็อย่าลืมหมั่นสังเกต และดูแลรักษารถให้ดี ๆ ไว้ใช้งานได้นาน ๆ และขอให้สนุกกับการเดินทาง เพลิดเพลินไปกับขับขี่รถ 2 ล้อสุดที่รัก แล้วพบกันในบทความต่อไปกันครับ

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์สินค้าและของตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์บริการยางบิ๊กไบค์และซ่อมบำรุง ShowPow 
– สาขาอ่อนนุช คลิกที่นี่ 
– สาขาบางบอน คลิกที่นี่
– สาขาสายไหม คลิกที่นี่ 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Exit mobile version